วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557
ล๊อตเตอร์รี่ โทรศัพท์มือถือ และ กระดาษหนังสือพิมพ์เก่า ๆ
เรื่องที่หนึ่ง....ล๊อตเตอรรี่ 4 ใบ
เมื่อสองวันที่แล้ว บนโต๊ะอาหาร ..... ชั้นนั่งกินข้าวเหลือบตาไปมองพ่อ ..... พ่อแก่ลงมากๆแล้ว ผอมมาก ฟันหัก แทบจะเหลือไม่กี่ซี่ .....
พ่อนั่งตรวจล๊อตเตอรี่อย่างใจจดใจจ่อ .... ชั้นมองพอเงียบๆ ดูพ่อจะตั้งใจแล้วฝากความหวังอันน้อยนิด กับล๊อตเตอรี่ 4 มากๆ ...... ตรวจครบบรรทัดสุดท้าย ..... ไม่ถูกเลยซักใบ พ่อถอนหายใจอย่างแรง ชั้นเองรู้สึกเจ็บจนแน่นอกยังไงไม่รู้
เมื่อ 5 วันที่แล้ว พี่ชายบอกว่า ......
พ่อเป็นหนี้ ลุงอยู่ 4 แสน กำลังโดนถอนจากการเป็นตัวแทนประกันภัยยิ่งตอนนี้ .... ม๊อบปิดส่วนราชการ ไม่มีรถมาทำประกอบการเลย ...... คาดว่าพ่อน่าจะเครียดเรื่องเงินมากพอสมควร ..... "ความหวังของพ่อ จึงอยู่ที่ล๊อตเตอรรี่ 4 ใบที่ว่า"
เมื่อก่อน พ่อเป็นคนรวย เปิดบริษัทขนส่ง มีรถสิบล้อเกือบ 15 คัน (คันละประมาณ 2 ล้าน) แต่เพราะพ่อโดนโกง และรถบรรทุกในบริษัท เกิดหลับในชน กับรถพยายาบาลที่กำลังส่งตัวผู้ป่วย ..... ตอนนั้น ...... มีคนตายทั้งหมด 4 คน ..... พยาบาลในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และคนไข้ที่กำลังส่งตัวไปโรงพยาบาล ....... เหตุการณ์ครั้งนี้ ..... ทำให้ญาติคนป่วย ญาติพยาบาล และโรงพยาบาล ฟ้องร้องกับบริษัทพ่อไปหลายสิบล้าน ..... พ่อขึ้นศาลหลายรอบมาก พร้อมทั้งผ่อนจ่ายชดใช้ค่าเสียหาย มีสมบัติเท่าไหร่ ต้องขายไปหมด
แต่พ่อก็เป็นคนเก่ง พ่อไม่เคยท้อ ไม่เคยถอย ...... ต่อมา
พ่อเอาเงินไปลงทุนเช่าบ่อเลี้ยงกุ้งขนาดใหญ่ หลายบ่อ แต่ปรากฎ ก่อนหน้าที่เราจะจับกุ้งขายเพียงอาทิตย์เดียว ..... ก็เกิดพายุ และน้ำท่วมนากุ้ง ..... กุ้งทะลักหายลงทะเลไปหมด ..... ตอนนั้น พ่อเสียเงินไปอีกหลายแสน หลายล้าน แต่พ่อก็ยังไม่ถอย ..... ชั้นรู้ว่าพ่อเป็นคนเก่ง .....
แต่วันนี้ ..... เริ่มรู้สึกแล้วว่า ..... พ่อทำท่าจะไปไม่ไหวแล้ว พ่อดูเหนื่อย และท้อเกินไปแล้ว
พ่อเครียดกับเรื่องม๊อบพอสมควร เพราะมันเป็นช่วงรถต่อประกอบการ ซึ่งช่วงจะได้เงินจากประกอบการล๊อตใหญ่ ..... แต่คาดว่า มันน่าจะเลือนลาง .....
ชั้นนั่งมองพ่อ ..... แล้วรู้สึกเจ็บใจตัวเอง .....
ในเมื่อชั้นก็คนมีความสามารถ แต่กลับต้องมาอยู่บ้านเฉยๆ ช่วยอะไรไม่ได้เลย มานั่งกิน นอนกิน ทำอะไรไร้สาระไปวันๆ ชั้นพยายามถามคำถามกับตัวเองว่า ..... ทำไมที่ผ่านมาทำงานตั้งหลายที่ ถึงไม่ผ่านซักที มันเกิดอะไรขึ้น เพราะตัวชั้นเองไม่มีประสิทธิภาพใช่ไหม
จริงๆ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว .... ถ้าอดทน อยู่กู๊ดเยียร์ อยู่คอลเกตต่อ ....
ตอนนี้ ..... ชั้นก็น่าจะผ่อนรถหมด
ส่งเงินให้พ่อใช้เดือนละหมื่น ให้แม่เดือนละหมื่น ให้น้าเดือนละห้าพัน ....
และพ่อกับแม่ ก็ไม่ควรต้องลำบากอย่างนี้อีกแล้ว ..... ทำไมชั้นต้องมาติดอยู่แบบนี้ด้วย ....
เรื่องที่สอง ..... โทรศัพท์มือถือ
วันนี้แม่นั่งโวยวายอารมณ์เสีย บอกว่าโทรศัพท์มือถือตกพื้น หน้าจอแตก ..... มือถือของแม่เป็นยี่ห้อ อาม่า รุ่นเก่าๆ ราคาแค่ 990 บาท ..... และแม่ใช้มาเกือบ 3 ปีแล้ว ...... โทรศัพท์แม่ ติดๆดับๆ แบ็ตเตอรี่บวมพอง แต่แม่ไม่มีเงินซื้อให้ และทนใช้เรื่อยๆ จนหมดอายุขัยของมัน ......
แม่พูดอย่างเศร้าๆ ว่า ..... ถ้าไม่มีโทรศัพท์ จะโทรหาขวัญได้ยังไง แม่เป็นห่วงน้อง ..... กลัวน้องจะลำบาก กลัวน้องะอยู่กับบ้านโน้นไม่ได้ กลัวว่าน้องจะโทรมาแล้วไม่เจอแม่ .....
ชั้นเดินขึ้นมา บนห้อง ...... ตัดสินใจจะโทรหาขวัญ .....
ช่วงนี้ขวัญทำงานมีเงินเดือน ชั้นอยากจะขอยืมเงินน้องซัก 2,000 ไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้แม่ ..... แต่แล้ว ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ..... เราเป็นพี่ ไม่ควรเอาเงินน้อง ..... แม้ตอนนี้น้องจะมีเงิน แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะโทรไปรบกวน ไปเบียดเบียนเงินน้อง .....
ชั้นเปลี่ยนใจ หยิบโทรศัพท์ของตัวเอง เดินลงมาข้างล่าง แล้วเอาของตัวเอง มาเปลี่ยนให้แม่ใช้เสีย .....
เครื่องชั้น เป็นยี่ห้อ I-Mobile ราคา 4,000 บาท ทัชสกรีน .
.... ชั้นบอกกับแม่ว่า ..... ตอนนี้หนูอยู่บ้าน ไม่มีใครโทรหาหนูหรอก .... แม่เอาไปใช้เถอะ
แม่ดีใจอย่างเห็นได้ชัด ..... รีบเดินไปเติมเงินที่ร้านป้าข้างบ้านทันที .....
ชั้นไม่เคยเสียดายโทรศัทพ์ .... แต่ก็คิดอยู่บ้าง ว่าต่อไปคงติดต่อใครไม่ได้ .... โทรศัพท์เป็นสิ่งค่อนข้างจำเป็นมาก ไว้ติดต่อ ทำงาน ......
แต่พอคิดอีกที .....ตอนนี้แม่แก่ลงมากแล้ว เดินแทบจะไม่ไหว มีลมหายใจอยู่ไปวันๆ อย่างสิ้นหวัง รอเสียงโทรศัพท์จากคนนั้นคนนี้แก้เหงา ..... ได้โทรหา ขวัญ โทรหากิ้วบ้าง โทรคุยกับญาติบ้าง นั่นคือความสุขที่สุดแล้วของแม่
ชั้นตัดสินใจแบบไม่ต้องคิดเลยว่า ธุระกิจของชั้นไม่มีวันสำคัญกว่าของแม่อีกแล้ว ......
ต่อให้บริษัทยักษ์ใหญ่ IBM หรือ Wall Mart โทรเรียกชั้นไปสัมภาษณ์ ติดต่องาน แล้วโทรไม่ติด ชั้นก็ไม่คิดว่ามันจะสำคัญอะไรอีกแล้ว ......
ธุระของแม่สำคัญกว่า เพราะชั้นก็ไม่รู้จริงๆว่า ..... แม่จะได้นั่งโทรหาคนอื่น แบบนี้ไปอีกกี่วัน .... ตาแม่เริ่มฝ้าฟาง มองอะไรไม่เห็น เดินไม่ไหว กินข้าวไม่ลง ขาบวม บางทีก็มีการเน่าบ้างที่นิ้วเท้า ..... ยิ่งโรคประจำตัวของแม่ที่ชุกรุก รุมเหลือเกิน ยิ่งทำให้แม่ มีสภาพเหมือนใบไม้เก่าๆ ที่ไม่รู้จะร่วงคาต้นวันไหน .....
แม่ของชั้น ..... ถึงจะชอบบ่น ชอบด่า แต่แม่ก็เป็นคอดทน
และที่สำคัญ แม่ไม่เคยมีชีวิตสุขสบายเลย แม่ต้องออกขายของตั้งแต่ตี 4 เพื่อช่วยพ่อปลดหนี้ พอมีเงินเก้บแม่ก็ส่งให้ลูกเรียนมหาลัยหมด ..... เงินของแม่ที่หามาทั้งชีวิต มีแต่ให้คนอื่น .....
ชั้นได้แต่โทษตัวเองอีกครั้ง ...... ถ้าชั้นยังทำงานเป็นดีเทลยา
ชั้นก็น่าจะมีเงินส่งให้แม่ใช้สบายๆ เดือนละหมื่น ..... ให้แม่ไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ ให้แม่เอาเงินไปหาของกินอร่อยๆ ...... แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ..... กับคนที่ทำงานเก่ง หาเงินเก่ง อย่างชั้นละ ....
ทำไมต้องมาอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อน ก็ทำงานส่งเงินมาให้แม่บ้าง ..... ให้แม่อยู่สบายๆ ใจเย็นๆ ถึงไม่มาก แต่มีก็มีใช้ ......
ชั้นร้องไห้อีกครั้ง ..... ชั้นสมเพทตัวเอง
ที่อยู่เฉยๆ ไม่มีงานทำ มาเกาะพ่อและแม่กิน ทั้งๆ ที่ท่านก็แก่ชรามากๆ เดินแทบจะไม่ไหว .... จะตายวันไหนก็ไม่รู้ ......... ตอนนี้ อย่าว่าแต่พาพ่อ แม่ เที่ยวเลย ..... เอาชีวิตใหรอดไปวันๆ ยังแทบจะยากเย็น
เรื่องที่ 3 กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ
เมื่อ 10 วันที่แล้ว ... ชั้นเดินไปรื้อกองกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ
พบซองจดหมาย ..... เจอใบทวงหนี้จากธนาคาร .....
เลยเปิดอ่านดู .....พบว่า พ่อเอาเจ้าซ่า (รถอแวนซ่า) ไปเข้าไฟแนนซ์อีกรอบ เพราะพ่อหาเงินไม่ทัน .... และที่สำคัญ เจ้าอแวนซ่า รถคู่ทุกข์คู่ยาก อาจจะโดยยึดจริงๆ ก็คราวนี้ .....
ชั้นไม่โกรธพ่อ .... แม้จะรักเจ้าอแวนซ่ามากเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างพ่อกับรถ ..... ชั้นเลือกพ่อ .... ชั้นไม่เสียใจอีกแล้ว ถ้าพ่อจะเอารถคันนี้ไปขาย เพราะพ่อแก่มากจริงๆ ..... พ่อแก่จนชั้นรู้สึกว่า ถ้ามีเงินมีสมบัติอะไรยังเหลือ ชั้นจะล้างหนี้ให้พ่อให้หมด .....
ให้เค้าได้มีความสุข ช่วงบั้นปลายสุดท้ายของชีวิตจริงๆ ไม่ต้องห่วงพะวงหน้าหลัง ..... มีเงินใช้นิดๆหน่อยๆ กับความสุขที่ทั้งคู่ ต้องกัดฟันมาตลอด .....
ต่อมา ....
น้าเดินถือหนังสือพิมพ์กลับบ้าน บอกว่า เพราะเค้าประท้วง โรงเรียนปิด ไม่ได้ขายของอีกหลายวัน แถมวันนี้ หไม่ได้กำไรเลย ..... ลงทุนไป 1,000 บาท ได้เงินมา 300 บาทเอง
ชั้นสงสารน้าจับใจ ..... เลยชวนว่า เดี๋ยวหลังจากผลสอบ อบจ เสร็จ เราไปหาที่ในตลาดขายของกันไหม ..... ชั้นรู้ว่าน้าเหนื่อย ผู้หญิงคนนี้ก็ทำงานเลี้ยงดูชั้นมาตลอดชีวิต .....
ช่วงชั้นกลับมาบ้าน ไปทำงานกี่ที่ก็โนไล่ออก ไม่ได้เงิน โดนโกง .... จนน้าบอกว่า .... พรอยู่บ้านเถอะ อย่าคิดมาก อย่าเครียด น่าสงสาร กลัวว่าชั้นจะทนความกดดันไม่ไหว ...... เดี๋ยวน้าหาเงินให้เอง เดือนละ 590 บาท ไว้เล่นเน็ต ..... อยู่บ้านนี่แหละ
ชั้นบอกตรงๆ ...... ชั้นโกรธตัวเอง
โกรธที่ตัวเอง ไม่มีความสามารถ จะกลับไปทำงานที่ กทม ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินเก็บแล้ว ....
จะไปเรียนต่อยิ่งหมดหวัง .....
อยู่บ้านเฉยๆ ..... นั่งเรียนอะไรอยู่ ก็ไม่รู้
แต่ ..... พ่อ แม่ น้า ..... ซึ่งแก่ชราแทบเดินไม่ไหว ..... กลับต้องลำบากสายตัวแทบขาด
ทั้งๆที่อายุขนาดนี้ 70 ปีกันแล้ว ..... พ่อ แม่ น้า ..... น่าจะได้พักเหนื่อย .....
ชั้นน่าจะทำงานเป็น Manager .ตอนอายุ 30 หรือจริงๆ ควรเหลือเงินส่งให้เค้าใช้ ...
ทำงานด้วยความสามารถ ...
วันนี้ ..... ชั้นเรียนรู้อีกอย่างว่า
นอกจากจะเป็น depress แล้ว ....
ชั้นยังเป็นคนไร้ความสามารถ จนเกือบจะเรียกว่า อกตัญญู ด้วย .....
คะ ชั้นร้องไห้
สอบ อบจ เสร็จเมื่อไหร่ ..... ชั้นจะกลับไปสมัครงานคะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น