วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

ลาภ ลาบ ลาพ ลาป


1 ตุลาคม 2013 เวลา 13:59 น.
ตั้งแต่มาขายยำ ขายลาบ .... ชั้นรู้ดึกดีกับตัวเอง
แถมรู้สึกเถื่อน เรว ยะรำ นิดหน่อย ..... สบายใจขึ้น ไม่เครียด และไม่หวาดผวาอีก

เหมือนเราได้ปลดปล่อยตัวเอง ปล่อยจากปริญญาที่ภูมิใจ เปลี่ยนจากการเป็นคนพยายามดีพร้อม ลงมาเป็นคนธรรมดาดีๆ

ตอนเรียนหนังสือที่มหิดล มันรู้สึกอึกอัดนะ .... ตอนแรกเราจะรู้สึกว่า เราเจ๋ง เราโอเคร เราเป็นคนดี อยู่ในกรอบของสังคม เราโดนอบรมบ่มมาอย่างดีพร้อม เราอาจจะไม่ได้เก่ง แต่เราโชคดี ที่มีโอกาสได้เรียน ..... แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ สิ่งที่เรารับรู้คือ .... มันไม่ใช่อะ เราไม่ชอบ เราไม่ได้อยากเปลี่ยนพฤติกรรมใคร เราไม่ได้อยากสนใจว่าใครจะมีสุขภาพดีไหม เราแค่รู้สึกว่า ถ้าใครมาขอร้องเราก็พร้อมจะช่วยอย่างเต็มใจแค่นั้นเอง ... แต่ถ้าให้ลงไปช่วยโดยที่เค้าไม่ต้องการ .... มันไม่ใช่สิ่งที่เราอยากทำเลย

ถ้าจะให้ลาออกไม่เรียนเหรอ .... ก็ทำไม่ลง สงสารแม่ เราก็กู้เงินจาก กยศ. ไปก็เยอะถ้าลาออกจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย กลับบ้านไปก็เสียหน้า .... มหิดลก็ Cool มากนะ มีรูปพระราชบิดาด้วย พระองค์บอกว่าให้เราทำเพื่อประชาชน ...... เราจะทำยังไงดี ถ้าเราไม่ดูแลสุขภาพคนอื่น เราเป็นคนเลวนะ เราชั่วมาก

นี่คือความรู้สึกทั้งหมด ตอนเรียน ..... พอเรียนจบ ดีใจ ร้องกรี๊ด ได้แล้วใบเบิกทางแล้ว ปรากฎว่าไปทำงานมันก็ไม่ใช่อะ มันมีปัญหาค้างคาใจเยอะมากกกกกกกกกกกก ...... มากที่สุด มากจนเกิดความรู้สึกเพาะบ่มเรื้อรัง เหมือนเป็น ซีดส์ธรรมดา แล้วพัฒนาเป็นมะเร็ง ลุกลามไปมากมาย

ทุกคนจะคิดว่าเด็กมหิดล จะต้องเก่งวิชาการ นิสัยดี มีมารยาท และนอบน้อมถ่อมตน เคยคิดเล่นๆว่า ถ้าเรียนจบเทคนิค หรือ เพาะช่างมา .... จะมีใครด่าไหมวะ เพราะนิสัยเราออกแนวติสแตก อาร์ตมาก  ปากไว ไม่เครียด และจินตนาการสูง อยากสร้างศิลปะ ที่เป็น Abstract (คือเข้าใจอยูคนเดียว มองแล้วอ่านความหมายเอาเถอะ)


นี่แหละ อันตรายที่สุดของระบบการศึกษา
แต่ถ้าใครที่รู้ความต้องการและเดินทางไปตามที่ความต้องการผู้นั้น WIN สุด

ใครอยากช่วยเหลือคนอื่น อยากเอาชีวิตผูกพันธ์กับคนมากๆ อยากเปลี่ยนแปลงสังคม อยากรับใช้มวลชน กรุณาเถอะ รีบเลือก หมอ พยาบาล สาธารณสุข ทหาร ครู นักวิชาการ .....

ถ้าใครมีจินตนาการสูง รักอิสระเสรี ก็จงยืนหยัดไปเรียนในที่ที่ตัวเองศรัทธาเถอะ อย่าสับสนอย่าเครียดอีกเลย .... พยายามทำงาน เพ้อเจ้อ Creative ให้เต็มที่ ทำงานให้ได้เงินเยอะๆ ...แล้วเสียภาษีเพื่อช่วยสังคมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ .... เมื่อเราไม่ชอบอยู่ร่วมสังคม ไม่ชอบอยู่กับใครนานๆ .... หาทางอื่นช่วยไปก็ไม่แปลก

หมอ ไม่ได้ฉลาด กว่าแม่ค้า 
ทหาร ไม่ได้ซื่อสัตย์ กว่าจิตรกร 
ครูไม่ ได้เก่ง กว่านักบริหาร

เราแค่มีความชอบที่แตกต่างกัน ...
เราแค่ทำหน้าที่ ตรงหน้าให้ดีที่สุด แล้วตอบแทนสังคมด้วยวิธีที่ตัวเองถนัด ..... จะช่วยด้วยแรง จะช่วยด้วยใจ หรือจะช่วยด้วยเงิน .... ก็เอาเถอะ

วันนี้ชั้นจะบอกกับพ่อ ว่าขอบคุณมากที่ส่งเรียน และสัมผัสในสิ่งที่ท่านรัก ห่วงใยได้เป็นอย่างดี แต่มันไม่ใช่ตัวเรา .... ชั้นไม่อยากโดนโรงเรียน หรือสถาบัน ควบคุมสมองให้สับสนไปตลอดชีวิตจนตาย

ว่าแล้วก็จะไปขายลาบเงียบๆ  แล้วจะยิ้มเบาๆ ชั้นมั่นใจในแนวทางอื่นๆ จริงๆ อย่าให้ความรู้สึกตอนเรียนมหิดล มาหลอนเราอีก หลอนจนเราสับสน ยึดติดกับภาพลักษณ์ ยึดติดกับวิชาการ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเลย ......

ชั้นทิ้งไปหมดแล้วใบปริญญา ....
เหลือแต่หัวใจและความน่ารัก .... กับใบสมัครที่จะเปิดรับหนุ่มๆ เพื่อจูงมือกันไปสมัครคอร์สการเรียนใหม่ ตามที่ใจเราชอบและศรัทธาเหมือนกัน

ชั้นยังไม่ได้แต่งงานกับใคร นี่คือสติและการรับรู้ที่ชัดเจนที่สุด .... 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น