กำลังเซ็งสุดขีด .... เพราะบทความที่อุตสาห์พิมพ์มากกว่า 2 ชม. หายเกลี้ยง .... แล้ว โฆษณา feed ของเฟสบุคก็ไหลทะลักเข้ามา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ได้ set-private ไว้ .... บอกแล้วว่าชีวิตมันเกิดอะไรก็ได้เยอะแยะมากมาย .... ที่ทำได้ คือ ทำใจ
ช่วงนี้ฝังร่างกับหนังเกาหลีเยอะ .... ทั้งๆ ที่ไม่เคยชอบมาก่อน ที่ดูเพราะช่วงนั้นเรียนภาษา (ถ้าคุณไม่มีเงิน เราแนะนำให้ไปโบสถ์ เค้ามีสอนภาษาแบบถูกๆ มากมาย แถมมาตรฐานใช้ได้ดีเลยทีเดียว )
แอดมินไม่ชอบดูหนัง เกาหลี ญี่ปุ่น เอเชีย .... เพราะรู้สึกว่า บริบทมักจะ อ่อนหวาน อ่อนโยน และแหววมากๆในความรู้สึก มันไม่เหมาะกับตัวเรา และที่สำคัญ หนังหรือ serie TV Show ทั้งหมดของเอเชีย .... นางเอก นางร้าย แม่นางเอก ป้านางเอก .... ทุกคนจะสวยหมด !!!! ไม่รู้ตั้งใจกันรึเปล่า แต่หนังทุกยี่ห้อของทุกประเทศจะเป็นแบบนี้
ไปติดใจหนังต่างประเทศอเมริกา .... ซีรี่ย์บางเรื่อง นางเอกหน้าตาพื้นๆ คนอื่นๆ บางคนอ้วนกลม บางคนดำแก่ บางคนเตี้ยสั้น แต่ทุกคนจะได้รับบทเด่นๆเท่ากัน .... ไม่ว่าจะขาว ดำ เอเชีย .... เลยชอบดูเพราะรู้สึกว่ารอบตัวเรา ก็มีคนอ้วน คนดำ คนสวย คนขาว คนเตี้ย คนสูง ไม่ค่อยต่างจากชีวิตจริงเท่าไหร่
แต่เมื่อช่วงเวลาหนึ่งผ่านไป เหมือนนั่งเรียนรู้วัฒนธรรมจนเข้าใจ ซึมลึกลามมาจนถึงเป็นนิสัยเรา ....
ก็เลยตัดสินใจ .... กลับไปฝังร่างที่หนังเกาหลีอีกที แล้วความรู้สึกก็เหมือนเดิม .... คือดูแล้วหวานเยิ้ม ยิ้มร่า แต่พอดึงสติกลับมาก็พบว่า ในหนังมันช่างต่างกับชีวิตจริงทุกที ..... มันเหมือนชีวิต อยู่บนโลก 2 โลก
Public world และ Private world
ชั้นชอบไอเดียของหนังทั้งสองฝั่ง .....
ฝั่งเอเชีย จะออกแนว Public world สูง .... คิดแต่ไม่พูด รักแต่ไม่บอก อ้ำอึ้ง พึมพำ แคร์คนรอบข้าง ลึกซึ้ง หวานหยด น้ำตาไหล ใจเต้นระรัว เย็นชาแต่ว่ารักแท้ รักมากรักสุดๆ แต่พูดไม่ได้ ปิดทองหลังพระ เป็นคนดี ถูกใส่ร้าย แล้วในที่สุดความดีก็เปิดเผย เหมือนเราต้องตีความหมายหลายชั้น
ส่วนฝั่งอเมริกา จะออกแนว Private world เหลือเกิน .... รู้สึกรัก ชอบ ถูกใจ สบตาสองสามที พระเอกนางเอกไปซี้กันเรียบร้อย รักก็บอกตรงๆว่า รัก ไม่แคร์อะไร ไม่สนใจ ทำดีก็ชมแย่งผลงานกันต่อหน้า พลาดก็ด่ากันใส่ความรู้สึกชัด
แต่ถ้าให้คะแนนกันจริงๆ ก็คงต้องผงกหัวยอมรับว่า ยังไง ยังไง ก็ยังชื่นชอบ serie อเมริกา ..... เพราะมันมักจะมีหลายๆ ฉาก ทำให้เราเข้าใจชีวิตอะไรง่ายๆ ไม่ซับซ้อน .... ยกตัวอย่างเรื่อง Grey ละกันอันนี้เป็นแฟนฟันแท้ .....
ส่วหนังเอเชียนะเหรอ .... ชั้นพูดตามตรงว่า ดูแล้วชอบ น่ารักดีเลยหละ แต่มักไม่เข้าใจบริบทบ่อยๆ
ไอ้ที่ควรพูดก็ไม่พูด ....
พระเอกรักนางเอกจะตาย .... แต่แกล้ง (เพื่อ ? )
มีอะไรก็แนะนำได้ตรงๆนะคะ .... พอพูดความจริง กลับรับไม่ได้
อินางร้ายทำไมต้องทาปากแดง (ชีวิตจริงๆที่ร้ายๆ ทาลิปมันเยอะแยะไป)
หรือไอ้ที่แรงเกินไปก็ไม่มีส่วนดีเลย เลวทุกมุม หาดีไม่ได้ ร้ายนรก (ลำยอง)
นางเอกก็แบ๊ว แหวว บริสุทธิ์หมดจด งดงามมาก
ดูแล้วมันบั่นทอนความเชื่อมั่นจัง
เพราะชั้นรู้สึกอยู่เสมอว่า มนุษย์มีทั้งดีและชั่ว .....
ทำไมหนังฝรั่งจึงสามารถสื่อตรงนี้ออกมาได้ .... บางตอนนางเอกก็แสบร้ายจนน่าตบให้คว่ำ และบางตอนอีนางร้ายก็กลายเป็นคนที่น่าสรรเสริญจนเราแทบจะเกลียดไม่ลง ? ..(ชาร์ลอต คิง) แสบแสนแสบ แต่ไม่เคยเกลียดตัวละครนี้ได้ซักที
แถมนางร้ายจากบางเรื่อง แอดดิสัน ทั้งนอกใจผัว เป็นชู้กับเพื่อนสามี (สโลน) กลับกลายไปเป็นนางเอกของเรื่อง Private Practice ได้อย่างสมเหตุสมผล .... she ไปแย่งสามีของเนโอมิ เพื่อนสนิทอีกตะหาก มี Boyfriend ล่อไปอีกกว่า 5 คน ...แต่ทำไมเรากลับรู้สึกรัก และคอยลุ้นให้เธอสมหวัง ได้แต่งงาน มีครอบครัวดีๆ ?????
ทำไมอเมริกาสื่อได้ ..... ว่าคนเรามีหลายด้าน หลายมุมมอง
ทำไมเอเชียสื่อไม่ได้ ....
ฉันยังสงสัยอยู่จนทุกวันนี้
ยิ่งมาดูหนังเกาหลี ญี่ปุ่น ยิ่งสงสัยใหญ่ ...... เพราะอะไร ?
เอาเถอะ ซักวัน พระเจ้าจะให้คำตอบ ..... จบสั้นๆ ห้วนๆ และกัน
เพราะถึงจะให้เลือกจริงว่าอยากจะเป็นนางเอกแบบไหน ระหว่าง
เรื่อง .... เจ้าหญิงวุ่นวาย กับเจ้าชายเย็นชา (นางเอกน่ารัก กุ๊บกิ๊บ นั่งมองพระเอก ตาแป๊ว เหมือนแมวอยากกินปลากระป่อง )
กับเรื่อง private pracetice เหล่าสาวแกร่งทั้งแผง ที่แรง แรด รั่ว มั่ว เปรี้ยวๆ เฉี่ยวๆ ชาร์ลอต คิง + แอดดิสัน + ไวโอเล็ต (ไปล่อกับพ่อของแอดิสันเลยทีเดียว สุดๆมาก) แล้วโดนหักอกหลายที ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า หย่าร้าง พลัดพราก โดนกระชากลูกจากในท้อง เยอะคะ ....
เอาเป็นว่า .... ขอเลือกเรื่องที่สองดีกว่านะ มันดูเป็นชีวิตมนุษย์ดี ....
ช่วงนี้ฝังร่างกับหนังเกาหลีเยอะ .... ทั้งๆ ที่ไม่เคยชอบมาก่อน ที่ดูเพราะช่วงนั้นเรียนภาษา (ถ้าคุณไม่มีเงิน เราแนะนำให้ไปโบสถ์ เค้ามีสอนภาษาแบบถูกๆ มากมาย แถมมาตรฐานใช้ได้ดีเลยทีเดียว )
แอดมินไม่ชอบดูหนัง เกาหลี ญี่ปุ่น เอเชีย .... เพราะรู้สึกว่า บริบทมักจะ อ่อนหวาน อ่อนโยน และแหววมากๆในความรู้สึก มันไม่เหมาะกับตัวเรา และที่สำคัญ หนังหรือ serie TV Show ทั้งหมดของเอเชีย .... นางเอก นางร้าย แม่นางเอก ป้านางเอก .... ทุกคนจะสวยหมด !!!! ไม่รู้ตั้งใจกันรึเปล่า แต่หนังทุกยี่ห้อของทุกประเทศจะเป็นแบบนี้
ไปติดใจหนังต่างประเทศอเมริกา .... ซีรี่ย์บางเรื่อง นางเอกหน้าตาพื้นๆ คนอื่นๆ บางคนอ้วนกลม บางคนดำแก่ บางคนเตี้ยสั้น แต่ทุกคนจะได้รับบทเด่นๆเท่ากัน .... ไม่ว่าจะขาว ดำ เอเชีย .... เลยชอบดูเพราะรู้สึกว่ารอบตัวเรา ก็มีคนอ้วน คนดำ คนสวย คนขาว คนเตี้ย คนสูง ไม่ค่อยต่างจากชีวิตจริงเท่าไหร่
แต่เมื่อช่วงเวลาหนึ่งผ่านไป เหมือนนั่งเรียนรู้วัฒนธรรมจนเข้าใจ ซึมลึกลามมาจนถึงเป็นนิสัยเรา ....
ก็เลยตัดสินใจ .... กลับไปฝังร่างที่หนังเกาหลีอีกที แล้วความรู้สึกก็เหมือนเดิม .... คือดูแล้วหวานเยิ้ม ยิ้มร่า แต่พอดึงสติกลับมาก็พบว่า ในหนังมันช่างต่างกับชีวิตจริงทุกที ..... มันเหมือนชีวิต อยู่บนโลก 2 โลก
Public world และ Private world
ชั้นชอบไอเดียของหนังทั้งสองฝั่ง .....
ฝั่งเอเชีย จะออกแนว Public world สูง .... คิดแต่ไม่พูด รักแต่ไม่บอก อ้ำอึ้ง พึมพำ แคร์คนรอบข้าง ลึกซึ้ง หวานหยด น้ำตาไหล ใจเต้นระรัว เย็นชาแต่ว่ารักแท้ รักมากรักสุดๆ แต่พูดไม่ได้ ปิดทองหลังพระ เป็นคนดี ถูกใส่ร้าย แล้วในที่สุดความดีก็เปิดเผย เหมือนเราต้องตีความหมายหลายชั้น
ส่วนฝั่งอเมริกา จะออกแนว Private world เหลือเกิน .... รู้สึกรัก ชอบ ถูกใจ สบตาสองสามที พระเอกนางเอกไปซี้กันเรียบร้อย รักก็บอกตรงๆว่า รัก ไม่แคร์อะไร ไม่สนใจ ทำดีก็ชมแย่งผลงานกันต่อหน้า พลาดก็ด่ากันใส่ความรู้สึกชัด
แต่ถ้าให้คะแนนกันจริงๆ ก็คงต้องผงกหัวยอมรับว่า ยังไง ยังไง ก็ยังชื่นชอบ serie อเมริกา ..... เพราะมันมักจะมีหลายๆ ฉาก ทำให้เราเข้าใจชีวิตอะไรง่ายๆ ไม่ซับซ้อน .... ยกตัวอย่างเรื่อง Grey ละกันอันนี้เป็นแฟนฟันแท้ .....
- ประโยคนี้เธอห้ามพูดกับใครเด็ดขาด (แมร์)
- ทำไมจะพูดไม่ได้ ใครๆก็คิด (หยาง)
- ใช่ทุกคนคิด แต่ไม่มีใครพูด (แมร์)
- และพอเธอพูด คนอื่นก็จะแกล้งว่าไม่เคยคิด (แมร์)
- สุดท้ายเธอจะเป็นตัวประหลาด ที่คิดและพูดออกมาคนเดียว !!!! (แมร์)
ส่วหนังเอเชียนะเหรอ .... ชั้นพูดตามตรงว่า ดูแล้วชอบ น่ารักดีเลยหละ แต่มักไม่เข้าใจบริบทบ่อยๆ
ไอ้ที่ควรพูดก็ไม่พูด ....
พระเอกรักนางเอกจะตาย .... แต่แกล้ง (เพื่อ ? )
มีอะไรก็แนะนำได้ตรงๆนะคะ .... พอพูดความจริง กลับรับไม่ได้
อินางร้ายทำไมต้องทาปากแดง (ชีวิตจริงๆที่ร้ายๆ ทาลิปมันเยอะแยะไป)
หรือไอ้ที่แรงเกินไปก็ไม่มีส่วนดีเลย เลวทุกมุม หาดีไม่ได้ ร้ายนรก (ลำยอง)
นางเอกก็แบ๊ว แหวว บริสุทธิ์หมดจด งดงามมาก
ดูแล้วมันบั่นทอนความเชื่อมั่นจัง
เพราะชั้นรู้สึกอยู่เสมอว่า มนุษย์มีทั้งดีและชั่ว .....
ทำไมหนังฝรั่งจึงสามารถสื่อตรงนี้ออกมาได้ .... บางตอนนางเอกก็แสบร้ายจนน่าตบให้คว่ำ และบางตอนอีนางร้ายก็กลายเป็นคนที่น่าสรรเสริญจนเราแทบจะเกลียดไม่ลง ? ..(ชาร์ลอต คิง) แสบแสนแสบ แต่ไม่เคยเกลียดตัวละครนี้ได้ซักที
แถมนางร้ายจากบางเรื่อง แอดดิสัน ทั้งนอกใจผัว เป็นชู้กับเพื่อนสามี (สโลน) กลับกลายไปเป็นนางเอกของเรื่อง Private Practice ได้อย่างสมเหตุสมผล .... she ไปแย่งสามีของเนโอมิ เพื่อนสนิทอีกตะหาก มี Boyfriend ล่อไปอีกกว่า 5 คน ...แต่ทำไมเรากลับรู้สึกรัก และคอยลุ้นให้เธอสมหวัง ได้แต่งงาน มีครอบครัวดีๆ ?????
ทำไมอเมริกาสื่อได้ ..... ว่าคนเรามีหลายด้าน หลายมุมมอง
ทำไมเอเชียสื่อไม่ได้ ....
ฉันยังสงสัยอยู่จนทุกวันนี้
ยิ่งมาดูหนังเกาหลี ญี่ปุ่น ยิ่งสงสัยใหญ่ ...... เพราะอะไร ?
เอาเถอะ ซักวัน พระเจ้าจะให้คำตอบ ..... จบสั้นๆ ห้วนๆ และกัน
เพราะถึงจะให้เลือกจริงว่าอยากจะเป็นนางเอกแบบไหน ระหว่าง
เรื่อง .... เจ้าหญิงวุ่นวาย กับเจ้าชายเย็นชา (นางเอกน่ารัก กุ๊บกิ๊บ นั่งมองพระเอก ตาแป๊ว เหมือนแมวอยากกินปลากระป่อง )
กับเรื่อง private pracetice เหล่าสาวแกร่งทั้งแผง ที่แรง แรด รั่ว มั่ว เปรี้ยวๆ เฉี่ยวๆ ชาร์ลอต คิง + แอดดิสัน + ไวโอเล็ต (ไปล่อกับพ่อของแอดิสันเลยทีเดียว สุดๆมาก) แล้วโดนหักอกหลายที ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า หย่าร้าง พลัดพราก โดนกระชากลูกจากในท้อง เยอะคะ ....
เอาเป็นว่า .... ขอเลือกเรื่องที่สองดีกว่านะ มันดูเป็นชีวิตมนุษย์ดี ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น