วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

เบาๆ ต้อนรับวันปีใหม่


อยากจะถ่างตา ค้างนานๆ ..... แต่ไม่ไหวจริงๆ ง่วงนอนมาก ..... 
และคาดว่า อีก 30 นาทีเดี๋ยวจะไปแน่ เคลิ้ม ..... 
ถามตัวเอง .... เข้าข่ายเป็นเจ้าหญิงนิทรานะเนี้ยะ  ..... หลับได้ตลอดเวลา

หึหึ .... เอาประเด็นเบาๆ เรื่องเดียวพอ .....
เลือกตั้ง ..... ไป/ไม่ไป 

อาทิตย์นี้ ..... ตัดสินใจไง 
จริงก็มีคำตอบแล้วแหละ (แอบอุบไว้ก่อน) 

เพราะถ้าไป ..... แปลว่า เห็นประโยชน์ที่เอื้อต่อตัวเอง มากกว่า ความจริงใจ
แต่ถ้าไม่ไป ..... แปลว่า ไม่เคารพต่อหน้าที่ ไม่ให้เกียรติระบบการปกครอง 
หึหึ ...... 2 คำตอบ ...... น่าลุ้นทั้งคู่ 


ก็ บ่อยครั้งไหมละ ที่ใครๆ ก็รู้ว่า .... ชั้นไม่ชอบทำตามหน้าที่
และก็บ่อยครั้งอีกเหมือนกันนั่นแหละ ..... ที่ชั้นมักจะทำตัวเคลือบแคลง ไม่จริงใจ 

อะนะ .... ลุ้นกัน  ..... คนเก่งจริง ต้องดักรุ่นน้องได้ทุกทางนะเฟ้ย !!!! อย่าแพ้ 

ว่าแล้วก็เข้านอน เบาๆ .....
(เป็นไรมากไหมเนี้ยะชีวิต หลับได้ หลับดี แทบจะหลับเอาโล่ห์แล้วเนี้ยะ)

เรื่องของพ่อ


วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

Fuzzy Logic และ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม


"ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อไปก็ผิดหมด "  .... พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 



เมื่อวาน .... พูดถึง Fuzzy Logic 

ชั้นเป็นคนชอบเรียน ตรรกศาสตร์มาก ..... 

ตรรก หมายถึงความเป็นเหตุ เป็นผล ประพจน์ที่สมมูล และ สัจนิรันดร์ (ซึ่งแปลว่า ไม่ว่าจะ Neither nor หรือ Either or ) ถ้าประพจน์ทั้งสอง เสมอกัน .... ประโยคและเหตุการณ์ที่ตามมาจะ สมมูล หาความจริงหรือ เท็จได้ 

แต่ชีวิต .... ไม่ได้มีแค่ ผิด-ถูก ชั่ว-ร้าย เท็จ-จริง 

ดังนั้น .... มนุษย์ จึงริเริ่มคิดค้น Fuzzy Logic มาใช้ เพื่อแก้ปัญหาที่ไม่ได้ตัดสินกันแค่ สองทาง

โดยการใช้    If -Then  clause with union, intersect, complementary 

ฟัชซี่ ....มีมานานมาก 
ฟัชชี่ .... เป็นระบบปรับการทำงาน ในหม้อหุงข้าว เครื่องซักผ้า ตู้เย็น แอร์ 
เช่น ข้าวสุก หม้อจะปรับที่ อุ่น 
อุณหภูมิห้อง สูงไป ฟัชซี่ ปรับฟังก์ชั่นมาที่ ลดความเย็น 

ชั้นลองเอา Fuzzy .... มาปรับพฤติกรรมบางอย่างของตัวเอง

ตามทฤษฎีการปรับพฤติกรรม .... เค้าพูดกันว่า ถ้าเราจะบำบัดอาการอะไรซักอย่าง ..... 48-50 วัน คือตัวกำหนดระยะเวลาในการ รักษาพฤติกรรม อาการเสพติดเหล่านั้น

ในชมรม AA  (Alcohol Addict ).... 48 วันคือระยะวัดใจ ถ้าคุณผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ถือว่า พฤติกรรมนั้นจะถูกถอดออกจากชีวิต เกือบ 80%   


ชั้นมั่นใจว่าตัวเอง ไม่ได้เป็น sex-addict เพราะถ้าเป็นจริงๆ วันที่ 4 ของการถอน พฤติกรรม ชั้นต้องมีอาการ ลงแดง ทุรนทุราย หงุดหงิด ไปแล้ว (เชื่อเถอะ ....อย่างน้อยชั้นก็จบเมเจอร์ พฤติกรรมมานะ รู้จักพฤติกรรมตัวเองดีทีเดียวเลยละ ... ) 

ชั้นรู้ตัวอยู่แล้วว่า ต้องมันไม่มีอาการ แน่  ...... บางทีพฤติกรรมที่ผ่านมา มันเป็นอารมณ์ emotions พฤติกรรม hidden , express , introvert , .... แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ Addict 


อาการ Addict เลิกยากส์ กว่าเหตุผลข้างต้น ..... 

แต่ด้วยระยะเวลาที่ต้อง ถอน withdrawn all .... นักพฤติกรรมจึงระบุเวลาให้ใช้เท่ากัน 
  • ถ้าคุณอยากให้ลูกอ่านหนังสือทุกวัน .... ต้องบังคับติดต่อกัน 48 วัน
  • ถ้าคุณอยากจะลดอาหารเย็น ...... ต้องบังคับติดต่อกัน 48 วัน 
  • อยากให้เลิกยา .... คุณต้องบังคับเค้า 48 วัน 
ทีนี้  .... ในระยะ 4-10 วัน คุณจะเห็นอะไรสภาพอะไรหลายอย่าง 
การถอนพฤติกรรมจะทำได้สำเร็จหรือไม่ สังเกตุจากช่วงนี้ .... สภาพของผู้ป่วย addict จะก้าวร้าว รุนแรง สลับไปมา กับการร้องขอ เหมือนจะดี แต่จะ turn down ในเวลา 2-3 ชมต่อมา .... 

ชั้นไม่มีอาการขนาดนั้นหรอก .... แค่จะเล่าให้ฟังว่า เคยอ่าน คอร์ส รีแฮฟ มาบ้าง พอจะนึกออก .... เอ๊ะ หรือถ้า ชั้นจะ เกิดอาการ ดาบดิ้น ทุรนทุราย ลงแดง ถ้าไม่ได้ดูหนังโป๊ หรืออยากมีเซ็กส์จนเต็มปรี่ ก็คงฮากันเนอะ ..... นึกภาพตัวเองขนาดนั้นไม่ออกจริงๆ 



แล้วนึกยังไง ถึงเกิดจะถอนพฤติกรรมเอาวันนี้ 

(ทั้งๆ ที่ เมริงก็จบสาขาพฤติกรรม น่าจะสำนึกได้ตั้งนานแล้ว .... เพราะมีความรักจึง คิดจะถอนเหรอ ??) 
.... เปล่า .....

เพราะชั้นติดกระดุม ผิดเองตั้งแต่แรกสำหรับความสัมพันธ์รักนี้
ดังนี้ ... ควรแก้ไขด้วย Fuzzy Logic ตะหาก

ตรรกไม่ได้คาดหวัง ว่าเปลี่ยนแปลงแล้ว รักจะสำเร็จ ชื่นบาน ..... 

ตรรกะ ไม่ได้ set ความสัมพันธ์ yes-no , T /  F  หรือ bug ...... 
แต่ตรรกะ แค่ประเมินผล แล้วผลัก process ไปตาม Mode เพื่อรักษา ระบบเท่าที่จะได้


ชั้นผิดเองตั้งแต่ต้น
  • ที่ชั้นเข้าใจว่าเค้าเป็น guard 
  • แล้วชั้นก็ชอบมาก 
  • แล้วชั้นก็รำคาญ 
  • แล้วชั้นก็ไปคุยกับคนอื่น 
  • แต่จริงๆ ชั้นก็ยังชอบ 
  • จนว่า .... ยังชอบมาก 
  • จนโกหกกันไปอีกรอบ 
  • จนเค้าไล่ ไม่คุยด้วย 
  • จนลบเฟส จนจบ 
  • จนชั้นไปขอ ... เริ่มใหม่ ขอโทษ 
  • จนชั้นมั่นใจว่าเค้าไม่ใช่ Guard 
  • จนเริ่มเมาท์กันว่าเค้าเป็น Master อาจารย์
  • จนความสัมพันธ์เริ่ม กระอักกระอ่วน 
  • จนเหมือนเรา เสแสร้ง แกล้งโง่ ....อยากคบเพราะอย่างอื่น
  • ทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่เลย
  • ความสัมพันธ์ เริ่มผิดเพี้ยนไปหมด 
  • จนเราเองเริ่มซึม เงียบ งำ สลด ...... ใช้ชีวิตเงียบๆ ใช้ความคิด อ่านหนังสือ 
  • .... รักแต่กลัว 
คนอื่นอาจจะใช้ ตรรกศาสตร์ yes or no .... T/F ในการพิพากษา

แต่ Fuzzy  Set  Normal mode for working ..... แล้วพยายาม ถอดพฤติกรรมบางตัวออก เพื่อการทำงานและดำรงชีวิต อย่างปกติให้มากที่สุด ลด guilty และมีชีวิตต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น ตามทรัพยากรที่หลงเหลือ


ยังคงรักเหมือนเดิม คิดถึงเหมือนเดิม 

แต่ยอมรับอะไรมากขึ้น  

และถ้าเค้าโอเค เมื่อไหร่ .... 
ค่อยปรับ เป็น Active Mode หรือ High Energy Work Mode ก็ยังไม่สาย 


14 มีนาคม 2557 คือวันที่จะถอดพฤติกรรมสำเร็จตามคอร์ส ..... 

ลองมานับถอยหลังกันดีกว่า 


ขอบคุณพระเจ้า ..... 

ที่โลกนี้ สร้างคณิตศาสตร์ สาขา Logic ..... 


อำกันเล่นๆ ก่อนกินข้าว

ชันกำลังถามตัวเองเบาๆ เนิบๆ .... ว่า แน่ใจนะ ... "หัวใจปกติ" 
แน่ใจนะ ว่าไม่ต้องไปหาหมอ 

โดยตามวิสัยของชีวิต ร่างทรงหมีแพนด้า  แต่ก็มีการออกกำลังกายดูแลตัวเองพอสมควร 
ชั้นไม่เคยปล่อยให้หลอดเลือดตีบตัน ...... 

สรุป ชั้นมั่นใจว่าตัวเอง.....เป็นคนหัวใจแข็งแรงมากพอสมควร
ทั้งทาง Spiritual  และทาง Physical 

ท้าหมอ Cardiologist มาแหวกผ่าพิสูจน์ได้ ..... 

สองสามวันมาแล้ว ..... เกิดอาการ "บีบหัวใจเหลือประมาณ" (แอบงง) 
เพราะถ้าสมองจะเบลอ กล้ามเนื้อจะสั่น ปากจะเสียไปบ้าง ก็ไม่แปลก มันเป็นอาการที่เกิดได้ ชิลๆ ฮาๆ 

..... แต่ต้องไม่ใช่หัวใจ ..... 
เพราะอาการแบบนี้ ไม่เคยมีในชีวิต 

จริงๆ มันไม่ได้เจ็บปวดระดับ ทรมาณ สาหัส .... paining trauma ระดับ 10 
เปล่า ไม่ถึงระดับ 2 ด้วยซ้ำ ..... 
แต่ความถี่ของการเกิดตะหาก แอบทำชั้นกลัว !!!! 

ความถี่จะเป็นตัวกำหนดอะไรหลายอย่างมากในทางสถิติ Statistics 
ถ้าอยู่ๆ ก็เริ่มเกิดบ่อย เกิดถี่ ...... เราเชื่อกันว่า ข้อมูลชุดนี้ ควร Report ตรวจสอบ
แล้วตอนนี้ .... ร่างกาย หัวใจ ควรเช็คอัพดีรึเปล่า ???? 

ถ้าไปหาหมอ .... ดูเว่อร์แน่ๆ !!!!!!! confirm 
เอาจริงๆ ก็ขี้เกียจไปด้วยแหละ หุหุ หมอหัวใจส่วนมากหน้าแก่ ไม่หล่อ ไปก็ไม่ตื่นเต้น ไม่มีแรงจูงใจพอ หุหุ ... แกล้งวิ่งไปให้รถชนขาแล้วไปหาหมอกระดูกดีกว่า  (แผนกนั้น ละลานตา หวือหวากว่าเยอะแยะ )

แถมอาการก็ไม่ได้ป่วย ฉุกเฉิน ร้าวราน รุนแรง เลือดไหล ไหปลาร้าหัก ไม่มีเลย 
ไปก็เปลืองเวลา ..... อยู่บ้านฟังเพลงชิลๆ ดีก่าา 

ได้แต่นั่งนับ ความถี่ ..... ต่อไป แล้วแอบหวังว่า ..... มันจะไม่เกิดอาการแบบนี้บ่อยๆ 
มันไม่เจ็บหรอก แต่กลัว 

หัวใจเป็นอวัยวะชนิดเดียว ที่ไม่ได้ทำงานภายใต้คำสั่งของสมอง 

แม้แต่สมองที่สำคัญที่สุดของร่างกาย ยังบังคับหัวใจไม่ได้ 
อย่าให้คนอื่นมาบังคับหัวใจเราได้ นอกจากเค้าคนนั้นจะใช้สั่งการด้วย ...... ความรัก 


อะนะ แอบเพ้อเจ้อ ก่อนกินข้าว

ปล. ล้อเรื่องอ้วน เจ๊ไม่ว่า ล้อเรื่องดำ ไม่ว่า ล้อเรืองขำๆ ฮา น่าอาย เจ๊ก็ไม่ว่า ด่าว่ารักแร้ดำก็ไม่ว่า ล้อเรื่องหนวดนี่มีแอบเคืองนะ !!!!!  (จะโกนก็ไม่กล้า หนวดเยอะเชียว เซ็ง)

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

เข้าค่ายกันดีกว่า


ช่วงนี้ .... เด็กน้อยทั้งสยามประเทศ จะเข้าสู่ฤดูกาล "เข้าค่าย แชมป์เปี้ยนชิบ" .....

เข้าค่ายเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ อิฉันปลามปลื้มและชื่นชอบมาก  

การเข้าค่ายจะเป็นการประเมินผลขั้นสุดท้าย .... ของวิชา ลูกเสือ เนตรนารี 

เราจะได้คืนดี หรือหมั่นไส้ เพื่อนร่วมชั้น มากขั้น .... ก็เพราะเข้าค่ายนี่แหละ หุหุ  


เคยไหม .... แกล้งเอาน้ำไปสาดเต็นท์เพื่อนที่เราไม่ชอบหน้า ..... ใครไม่เคย (แต่ดิฉันเคยคะ ว่ะ ฮ่าๆๆ ) .... ช่วงเข้าค่าย จับมือใครดมไม่ได้ เราจะเป็น ผู้ร้ายหัวใจสีชมพู แอ๊วแบ๊วไป หรือจะมุดไปขโมยกางเกงในเพื่อน มาเพื่อทำพิธีวูดูก็ได้ .... อันนี้ไม่เคยทำ แต่เคยคิด 



แต่ตอนนี้ อายุ 30 ปี แล้ว ..... ไม่มีค่ายให้เข้ากันอีกต่อไป 

ความสดใส เราเริ่มเจือจาง คืนวันแห่งการผจญภัย แบบอาจารย์คอยระวังหลังให้ หมดไป เหลือแต่ชีวิตจริงที่ต้องเผชิญ ผจญภัย ไม่มีใครคอยถือไม้ง่าม นกหวีด ช่วยเราได้อีกแล้ว

ด้นสดกันล้วนๆ ไม่มีแสตนอิน เจ็บจริง เล่นจริง ทุกฉาก

ตอนนี้ ถ้าอยากเข้าค่าย .... 

ทำได้คงแค่   ค่ายกักกันสัตว์เขต 11 ประจวบ (อันนี้น่าลองไปจัดกิจกรรม )


เมื่อเราโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ .... 

รูปแบบค่ายจะเปลี่ยนไป เป็น สัมมนา (Seminar) 

สัมมนา มักจะเป็นคำแอบอ้าง ของนักเรียนโท-เอก 

ที่หาเรื่องไปเที่ยวทะเล หาของกินอร่อยจากโรงแรม ..... แล้วแอ๊บ เอาเรื่องวิชาการมาบังหน้า 

สัมมนา เราไม่ต้องเตรียม อาหารกระป๋อง โต๊ะ เต็นท์ หม้อ ไห ไข่ ชาม ไม้ง่าม ความหรู พู่ระหงษ์ องค์บาก 


สัมมนา ... เราเตรียมเงิน ชุดว่ายน้ำ แว่นตาเก๋ๆ Dress เริ่ดๆ เวลาขึ้นพรีเซนต์ และความรู้นิดส์ๆ เผื่ออาจารย์ถาม (รุ่นพี่เคยบอกว่า สัมมนา จริงๆ เมริงอย่าอ่านหนังสือเยอะ เดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก !!! ) อืมมมม .....  อาจารย์รู้ เมริงโดนด่าแน่ อิรุ่นพี่ กะจะเที่ยว ตาเขียวเชียว 



เวลาเข้าค่าย เราจะได้ความรู้สึก Adventure

แต่เวลาเข้าสัมมนา เราจะได้ความรู้สึก Addict  (เสพติด) ซึมๆ มึนๆ แต่ก็ชอบ และ สนุก 


บางทีความรัก ก็เหมือนการ "การเข้าค่าย" 

สนุก มันส์ ประจัญบาน ต้อง Adventure ห้ำหั่นกัน เปรี้ยวจิกตา ด่าติดจอ สะเทือนใจ เขย่าอารมณ์กันระทึก ครึกโครม 

แต่บางทีเราก็อยากได้ความรักแบบ "การเข้าสัมมนา" 

ช้าๆ ซึมๆ เชื่องๆ ดูขยันขันแข็ง ชวนกันไปดู paper research วิเคราะห์ ถกประเด็นการวิจัย ให้อาจารย์เห็นเคลิ้มๆ .... แต่พอลับตาปั๊บ ..... เราก็แอบหนี สัมมนา ไปลั่นลา ไปเที่ยว ไปว่ายน้ำ ไปช๊อปปี้ง (อย่าเถียง เด็กป.โท ทำกันทั้งนั้น ฮ่าๆๆ )   

ชั้นชอบความรัก แบบนี้ เพราะความสัมพันธ์แบบเข้าค่าย มัน Adventure สนุก ตื่นเต้นมากก็จริง แต่ถ้ามากเกินไป ความเหนื่อย อ่อนล้า จะเข้ามาแทนที่ ..... และสุดท้าย เราทั้งคู่ จะเพลียและเบื่อกันไปในที่สุด .....



ให้ความรัก เป็นเรื่องของการสัมมนาระหว่างกัน ......

ไม่เข้าใจก็ถาม ช้าๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องระทึก ประกาศศึก ยุทธหัตถี ..... 
เอาแบบ ห๊า??? เมื่อกี้พี่ว่าไรนะ น้องไม่ทันฟัง อธิบายช้าๆสิ  ...... หรือ ดู นั่น โน่น นี่ ..... พอเริ่มรู้สึกอิ่มกับการเรียนรู้ ก็จูงมือกันไป เดินห้าง เดินชายหาด เที่ยวเบาๆ ชิลๆ ..... ถ่ายรูป อัพเฟส 

พอเห็นอาจารย์ ก็เก็กหน้าเข้ม อธิบายงานวิจัย ผลของ progress เทคโนโลยี ที่ได้ดูมา .... 


ตกดึก ก็แอบ ตั้งวงไพ่ กับเมเจอร์อื่น เล่นป๊อกเก้า เจ้ามือกินรอบวง  โฮ๊ะ ๆๆๆ ..... 

ตื่นมาตอนเช้า ก็นั่งเป็น Back up ทำหน้าสดใส เชียร์อาจารย์ตอนท่านขึ้น Present + Speaking + Symposium ไปแบบ นิ่งๆ เปรี้ยว เฉี่ยวๆ ชิลๆ 



มันเป็น Moment กำลังพอดี ไม่มากไป ไม่เครียดเกิน ไม่โหดร้าย 

ยิ้มๆ กันไปเรื่อยๆ .... ไม่เข้าใจก็ปลอ่ยมือกันซักพัก .... เดินไปดูโปสเตอร์ หรืองานวิจัย อื่นแทน 
เข้าใจกันเมื่อไหร่ ก็กลับมาจับมือเหมือนเดิม ..... 

ความรัก ไม่มีรูปแบบ .....
แต่แบบเนี้ยะ .... ชั้นชอบ .... จบนะ อิอิ

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

อาการ เจ็บหัวใจ


ตื่นมากับอาการเจ็บหัวใจ หน่วงๆ ....

ไม่ได้ร้อนรนไร .... ปล่อยไป ไม่เครียด เพราะดูแล้วว่า หน้าตาแบบเจ๊บัว ไม่น่าจะตายด้วย Heart Attack มันควรจะตายในอ้อมกอด ชายหนุ่มมากกว่า .... ไม่เป็นไร จะเก็บไว้ตายที่จุด จุดนั้น  

เมื่อวาน .... ชั้นดีใจกับเรื่องความหนาวของ Polar Vortex ไปไม่เท่าไหร่ ..... ก็กลับมานั่งถอดถอนใจ ..... ฮ่วยยย ..... 

วันนี้ร้อนแร้ว !!!!! ตกลง ออกแนวเงิบ อีกชะไหมเนี้ยะ .... 

แต่มันก็ดีนะ ..... เพราะอย่างน้อย ชั้นไม่ได้มองที่ต้นเหตุ 
ชั้นมองที่ Process .... คือมันหนาว แค่นี้ก็โอเคร ดีเยี่ยม 


ส่วนพอมันกลับมาร้อน ..... เราก็จะได้ใส่เสื้อผ้าแฟชชั่น น้องใบบัว สั้นเสมอหัวกันอีก (เปรี้ยว เสียวซ่าน) .... 

ร้อนๆ จะได้ใส่สั้นๆ ชวนให้อยากกินขาหมู ดูถึกบึกดี .... 
อะนะ .... ชีวิต คิดมากไปใย ..... 



อัพเดท ความรู้ ..... สอบ อบจ


ตอนนี้ ชั้นค่อนข้างมั่นใจแล้วละ ..... ว่าตัวเองต้องสอบไม่ได้แน่ๆ  
สมองด้านการ บริหาร และการปกครอง มีแค่ระดับขนรากฝอย 

 ..... จะมาอัพอีกข้อที่คิดว่าน่าจะสำคัญเกี่ยวกะเรื่องหน้าที่ 
 และฟันธงได้เลยว่า อะไรฟร่ะ แล้วตกลงทำงี้ได้ไงอะ !!! นั่นคือ .... 
หน้าที่ของราชการ ตาม พระราชธรรมนูธ 2550 ที่ระบุไว้ชัดมากคือ ..... ต้องเป็นกลางทางการเมือง !!!!!!!!!!!!!!  ย้ำว่าต้องเป็นกลาง

(เอาเป็นว่า .... อย่าเพิ่งพูด เรื่อง อินโด สิงคโปร์ พ่อต่อ พี่ต้น  พี่เทพ เลือกข้างนั่น นู่น นี่ ก่อนนะ .... เอาเรื่องงงานก่อน .... แม้ลึกๆ ตอนนี้หัวใจ จะไปกะ หนุ่ม Algeria มากแล้วก็เหอะ แต่เดี๋ยวเรื่องหัวใจค่อยมาเคลียร์กันทีหลังนะ รอแป๊บๆ )

ชั้นแอบตกใจ นิดหน่อย ..... อ้าว ถ้าเป็นกลางทางการเมือง 
  • พี่หมอศิริราช ที่ออกมา สนับสนุนกันทั้งแผง แบบนี้ก็ไม่ถูกอะดิ 
  • ข้าราชการ ที่ออกมาเลือกข้างป๋าเทพ ก็ไม่ควรทำใช่ไหม 
  • ปลัดกระทรวงสาสุขอะ ???? (ออกมาชัดมาก)
ตรงนี้ ... ไม่ได้วิพากษ์ วิจารย์ แค่แสดงความคิดเห็น
สรุปคือ .... ถ้าเป็นราชการ choice เดียวในการออกความคิดเห็นด้านการเมืองคือ ต้องเป็นกลาง !!!  ส่วนพี่หมอโรงพย่าบาลเอกชนกรุงเทพ แฝดพี่ของป๋าชัชชาติที่ดิฉันกรี๊ดกร๊าด นั้น ..... ดิฉันถือว่า เป็นอิสระทางด้านความคิดคะ ....  อย่าได้แคร์ ถ้าไม่ได้รับราขการ ออกมาแย้วๆได้ ไม่ผิด 

เอาละ ..... จบกันสั้นๆ ตรงนั้น เรื่องการปกครอง ของสยามประเทศ ไม่ขอระบุถึง พรบ พรก ขสมก บขส อะไรพวกนั้นนะคะ ..... เพราะคิดว่าไม่น่าจะซับซ้อน

ส่วนอีกข้อ ....ที่คิดว่า เพิ่งรู้จริงๆวามี !!!!! 
และไม่รู้ว่าประเทศอื่นมีเหมือนเรารึเปล่า ... คือเรื่องกฎหมายแพ่งและพานิชย์ ข้อที่ว่า ....... 

บุตรไม่สามารถฟ้องร้อง บิดามารดา ข้อหาแพ่งและพานิชย์ โดยเด็ดขาด !!! ย้ำว่าห้ามฟ้อง นั่นแปลว่า ศาลสูงสุดประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญของสถาบันครอบครัวมาก  คล้ายๆ จะบอกว่า 

บุตร มิควรที่เห็นทรัพย์สำคัญกว่าพ่อแม่ตน จนต้องฟ้องร้องดำเนินคดี .... (เออ แล้วปกติ มีบุตรคนไหน ฟ้องพ่อแม่ตัวเองด้วยเหรอวะ .... โอเคร ชั้นก็ไม่ใช่เด็กดี พูดคะ ขา กะพ่อแม่ ออกแนว เหวี่ยงไปมา .... แต่ชั้นก็ไม่เคยมีความคิดจะต้องฟ้อง ให้ศาลตัดสินเลยนะ อาจจะมีบ่นๆ บ้าง .. แต่ถ้าแค้นขนาด ลูก จะเอาพ่อแม่ ขึ้นโรงขึ้นศาล ชั้นว่าไม่มีอะ) ....... 

บางทีอยากจะจับเข่าคุยกะพวก ทนาย อัยการ ว่า ..... แล้วมีคนฟ้องพ่อแม่ตัวเองด้วย หรือคะ ??  ....อันนี้ไม่รู้จริงๆ เพราะที่บ้านชั้นเป็นคนจนไม่มีทรัพย์สินให้ฟ้องกันอยู่แล้ว .... แต่ที่เค้ามีลูกมากๆ ถือหุ้นบริษัทร่วมกันเยอะๆ  .... เค้าจะฟ้องพ่อแม่ตัวเองไหมอะ ? .... ไม่รู้สิ แค่สงสัย จะมีเหรอ  ....  ย้ำอีกทีว่าเฉพาะเรื่องแพ่งและพานิชย์ เรื่องเงินนะ ....  อาญา ไม่เกี่ยว

จบคร่าวๆ กับเรื่องกฎหมายในราชอาณาจักรไทย  ..... อ่านไปตาแทบแฉะ .....

คราวนี้มาเฉลยคำถามจากครั้งที่แล้วดีกว่า  ...... 

1. เรากู้ IMF มากี่ครั้งแล้ว 
ประเทศไทย กู้ IMF มาแล้ว 5 ครั้งคะ ..... เริ่ดไหม 

2.จากข้อ 1 เพราะใช้หนี้ครั้งล่าสุดให้ IMF .... เร็วกว่ากำหนด 2 ปี ทั้งต้นและดอก โดยรัฐบาลของพี่ทักษิณ ชินวัตร .... 
ดังนั้น ประเทศไทยเลยมีเครดิตดีเยี่ยม กู้ได้บ่อยๆ และจะได้กู้อีก 2.2 ล้าน เป็นผลดี เหมือนมีเงินให้ยืมได้เรื่อยๆ ถ้าช๊อตจริงๆ

3. นอกจากนี้ เรายังเคย กู้ธนาคารโลก IBRD ด้วย แต่จ่ายหนี้กันหมดแร้ว

4.ยังมีจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ADB ด้วย 

พิมพ์ไปก็นั่งอมยิ้ม .... ที่อุตสาห์เขียนมาเยอะแยะ แค่รู้สึกว่า 

ประเทศไทยเครดิตดีมาก ..... 

หุหุ .... ขนาดดิฉันจะทำบัตรเครดิต ของธนาคารกรุงเทพ ยังไม่ผ่านเรยยย เครดิตแย่จังตู

เครดิตดี และกู้ ไม่ได้แปลว่า ..... ไม่มีเงินนะคะ  แต่แปลว่า มีรายได้มั่นคง ชัดเจน เป็นหลักประกัน รวมทั้งมีความเชื่อถือด้านการใช้คืน ความซื่อสัตย์ ในระดับสูง หนี้ไม่หาย จ่ายครบต้น ครบดอกแน่นอน  ... .(กระทรวงคลังควรดีใจนะเนี้ยะ ผลงานออกจะเด่น ทำไมไม่ค่อยเห็นมีใครพูดถึงเลยอะ) 

ปล. ดิฉันก็เพิ่งมารู้เหมือนกัน เพราะความรู้เรื่องบัญชี การเงิน เศรษศาสตร์ งบดุล มีน้อยเท่าไข่หอยเชอร์รี่ 

มาที่เรื่องของสภาวะภัยธรรมชาติ ..... ที่ส่วนมากจะถามแน่ๆ 2-3 ข้อ .... 
ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบ สอบเข้าสมาคมแม่บ้านพรานนกก็เถอะมีแน่นอน .... เช่น
  1. เอลนีโญ 
  2. ลานีญา 
  3. Flood
  4. Global Warming 
  5. Tropical storm 
  6. Typhoon 
  7. Tsunami
และสุดท้าย อือฮา หรูหรา อลังการ คือ เรื่องของ Polar Vortex 
จะผิดไหม ถ้าชั้นภาวนาให้ Polar vortex  เกิดบ่อยๆ 


อ่านข้อสอบจบก็ถอนใจ ..... โลกนี้ ยังมีอะไรอีกเยอะมาก 
  • ที่เรา .... ไม่รู้ 
  • ที่เรา ......ควรจะรู้ 
  • ที่รู้ .... แบบผิดๆ 
  • หรือสุดท้าย ..... ไม่ต้องไปรู้เลยจะดีกว่า !!!! 
เมื่อโตขึ้น .... 
โลกจะตั้งคำถามให้เรา มากมาย 
ตอบได้หรือไม่ได้  ขึ้นอยู่กับมุมมองของเราต่อโลกคะ 

บูชา Polar Vortex ชอบๆๆๆ


วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

ดีก็จงบอกว่าดี ... ไม่ดีก็จงบอกไป

24.1.2557  .... 

เหล็กย่อมเป็นสนิม หากทิ้งไว้เฉยๆ 
และน้ำก็ อาจจะขุ่นสกปรก .... หากถูกแช่ขังไว้นิ่งๆ 
เครดิต ... ปูปรุง

สิ่งที่เคยอ่อนโยน อย่างความรัก  อาจจะกลายแข็งกระด้าง ถ้าถูกทอดทิ้งไว้นานเกินไป .......  


บางที ..... ชั้นมองสิ่งต่างๆ ผ่านความรู้สึก ...... 
และเริ่มมั่นใจว่า ชีวิตที่เคยอ่อนโยน ..... ตอนนี้มันกลายเป็นแข็งกระด้างไปเสียแล้ว มันไม่ใช่ความสับสน เวิ่นเวอร์ แต่มันเป็นการเปลี่ยนทางเคมี .... ชนิดเปลี่ยนถาวร ...... มันนานเท่าไหร่แล้ว ที่ถูกทอดทิ้ง อยู่ที่จุดแบบนี้ ...... 

ชั้นโดนปล่อยทิ้งไว้ ..... จนความกระด้างมันกัดกินจนล้นใจมากกว่า 
มันไม่ใช่ความรู้สึกสับสน ..... มันเป็นความรู้สึก รำคาญ รังเกียจ 


ชั้นเกลียดที่สุด ...... คือคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า แต่กลับเอาข้อความของพระองค์มาอ้าง สั่งสอน ถ้าคุณเป็นคนคริสเตียน .... ภาษาเดียวกันมันจะสะท้อนออกมา แต่ถ้ามันไม่ใช่ มันก็จะสะท้อนมาเหมือนกัน 

ไม่รู้สิ ..... ชั้นก็บอกแล้วว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนดีมากมาย .... เป็นคนธรรมดา ที่ไม่ชอบให้ใครมาทำร้ายกันจนเกินไป ..... และที่สำคัญ ถ้ามีการทำร้ายกันเรื่องศาสนาเมื่อไหร่ ..... ชั้นจะไม่นั่งเฉยๆ ให้มันดูถูกแน่นอน

สองสามวันมานี้ .... เล่นกันเยอะไปไหม ..... 
ดูถูกคนอื่นมากไปรึเปล่า 


มึงเคยเห็นหัวกู บ้างไหม ...... หรือแค่คิดว่า ทำไปเถอะ มันไม่คิดมาก ไม่มีอะไร ..... เดี๋ยวมันก็ใจเย็น


การที่ด่าคนอื่น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นนิสัยของคนดีสินะ .... 


นั่นนะสิ ..... ไม่รู้ .....


ชั้นรู้แค่ว่า ความอดทนมีขอบเขต


ถ้ามันมากเกินความพอดี ..... สิ่งที่ตามมา ..... มันจะเยอะจนใครบางคนคาดไม่ถึง


วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

พัดลม แห่ง ความรัก และUpdate ความรู้ การสอบ ตอนที่ ... 4

ยิ่งหนาว ..... ยิ่งสงสัย 
ยิ่งสงสัย ..... ยิ่งค้นหา 
ยิ่งค้นหา ..... ยิ่งทำให้รู้ว่า ..... ชั้นเป็นคน  ที่ค่อนข้างหัวแข็ง และยึดติดกับอะไรเดิมจริงๆ 

ชั้นพยายามถามตัวเองว่า ..... เมื่อไหร่จะปิดพัดลมซักที ?????????????
เมื่อไหร่จะสำนึก ปิดพัดลมซะ ..... มันหนาวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว 

วันนี้ชั้นถามตัวเองประมาณ 5 รอบ .... จิตใจจดจ่อกับการเขียน บทความไร้สาระ อ่านหนังสือ พร้อมกับถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ว่า.....( เมื่อไหร่ เมริงจะปิดพัดลมวะ ปิยะพร ????? ) 

ถามตัวเองมาบ้างก่อนหน้านี้ .... ว่าทำไม หนาวจะตาย ยังเปิดพัดลม แถมทาแป้งเย็น อารมณ์กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ นอนทุกคืน .....  มรึงแน่ใจนะพร .... ว่าตัวเองไม่ได้บ้า !!!!!! 

ชั้นตอบคำถามตัวเองไปแบบ ....กรูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันวะ
  1. ก็เปิดกันมาทุกวัน .... 
  2. ตั้งแต่วันที่ร้อนที่สุด ช่วงเมษา (ช่วงเหงื่อไหล แสบหลัง) 
  3. วันธรรมดาชิลๆ อารมณ์ร่มๆ  ก็เปิด 
  4. ฝนตกหนัก ก็เปิด , ตกปรอยๆ ก็เปิด 
  5. แล้วพอวันที่เราหนาวจับใจ ..... ทำไม เราจะปิดมันเสียละ ????????? 
ทำไมพอเราเจออีกสภาวะหนึ่ง ..... ที่ไม่เอื้ออำนวยกับชีวิต .... เราต้องปิดมันละ ????? ....เหมือนเราจะทิ้งมันใช่ไหม .... 

ก่อนหน้านี้ .... ชั้นเคยโกรธมาก ..... ช่วงหน้าร้อนที่เหงื่อไหล. 
ชั้นโกรธ ที่ทำไม พัดลมไม่พัดให้แรงกว่านี้ ร้อนนะเว้ยยยยย พัดแรงๆ หน่อยสิ ไม่ไหวแล้ว .... เบื่อ เซ็ง อยากจะพาพัดลมใหม่ มาเปิดให้ชื่นฉ่ำ

แต่วันนี้ .... เมื่อหนาวขึ้นมากๆ 

พัดลม ..... ยังยืนที่เดิม  พัดด้วยแรงลมเท่าเดิม ด้วยกำลังวัตต์ และมอเตอร์ที่พอจะให้ได้ ตามความสามารถที่มันมีอยู่ .......... อากาศ และ อารมณ์ของเราตะหากที่เปลี่ยนตลอดเวลา ....

แต่พัดลม ยังเหมือนเดิมตลอดเวลา ทำงานของมันอย่าซื่อสัตย์  
(ชั้นไม่อยากดราม่า เรื่องค่าไฟฟ้า รู้ว่ามันเปลือง ควรปิด) 
แต่ลึกๆ ชั้นอยากจะพิสูจน์จริงๆ ว่า .....  

ในเมื่อ Fan (พัดลม) คนนี้ ยังอยู่ที่เดิม ใส่ใจเราแบบเดิม ให้เราได้เต็มที่ เท่าเดิม ตามที่เค้าเคยให้ แถมไม่เคยปริปาดบ่นซักครั้ง เวลาที่ความเย็นไม่ได้ดังใจในหน้าร้อน ..... แล้วชั้นเหวี่ยงหงุดหงิด 

แล้วทำไมหนาวแค่นี้ ...... ชั้นต้องปิด Fan เครื่องนี้ทิ้งซะละ 
ทำไม เราไม่ทนไปด้วยกัน ..... 

ชั้นเป็นคนไม่ชอบใส่กระโปรง ไม่ชอบใส่เสื้อแขนยาว ไม่ชอบแต่งตัวตัวรุ่มร่าม ..... แต่ที่เอามาใส่เพราะมันหนาวจนทนไม่ไหว  ...... 

ชั้นจะทนเพื่อเธอ .... "เจ้า Fan น้อย" ...... 
เราทั้งคู่จะผ่านฤดูที่สั่นสะท้านไปด้วยกัน 

หมายเหตุ  รู้สึก งงๆ กับตัวเองเหมือนกัน  .... บอกรักพัดลม ก็เป็นด้วยเนอะ นับวันยิ่งตลกนะเรา ขำอะ

เอาละ นั่นคือ ประเด็นการเวิ่นเวอร์ ของผู้หญิงวัน 30 ที่ใกล้จะขึ้นคาน (แอบตื่นเต้นนิดส์ เมื่อใกล้วาเลนไทน์ .... โสดและอยู่บ้านไปอีกวัน)



ประเด็นของวันนี้ ..... 

อยู่ที่การ อัพเดทความรู้ รอบตัวเรื่องการสอบ นักวิชาการส่งเสริมสุขภาพ .... ยิ่งอ่าน ยิ่งยาก .... ยิ่งยาก ยิ่งงง ตั้งคำถามกับตัวเองประปราย ..... ตูเรียนจบ ม.3 มาได้ไงฟร่ะ (ความรู้ไม่มีติดสมองเลยนิดเดียว )

วันนี้มาเบาๆ ด้วยเรื่องขององค์การ ความร่วมมือระดับนานาชาติ 
คำถาม (เฉพาะเด็กสายวิทย์กะโหลกกะลา เท่านั้น สายศิลป์ห้ามตอบ เด็กศิลป์ตอบกันได้ทุกข้อแน่ๆ  )

จงบอกชื่อเต็มของตัวอักษรย่อต่อไปนี้ .... พร้อมระบุ สถานที่ตั้งและจำนวนประเทศทั้งหมดที่เป็นสมาชิก 
  1. WTO
  2. IMF
  3. IBRD
  4. ADB
  5. EU
  6. OPEC
  7. APEC
  8. ASEAN
  9. NAFTA
  10. UNCTAD
  11. IMT-GT 
  12. GMS (ชื่อคล้ายผงชูรส อิอิ)
  13. JIGA
  14. เขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย 
  15. โครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ
  16. หกเหลี่ยมเศรษฐกิจ 
ย้ำว่าห้ามเปิดหนังสือ หาคำตอบ !!!!!!!! .... บอกชื่อเต็ม ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อม ระบุเมืองหรือประเทศที่เป็นที่ตั้ง ????? (ใครแกร่งกล้า อาคมแรง ... ช่วยตอบด้วยว่า เป็นการร่วมมือ เพื่อวัตถุประสงค์ อะไร )


เอาความจริงมาเฉลยนะ ..... "ชั้นตอบไม่ถูกเลยซักข้อ " .... hahahhahah 
ทุเรศตัวเองชะมัด !!!!!!!!! 
หุหุ นึกไปก็เวทนาตัวเองถนัดใจ .... จบ ม.3 และผ่านวิชาโลกของเรามาได้ไงวะเนี้ยะ !!!! (เข้าใจและ ตอนนั้นลอก เจ เศรษฐวุฒิ หุหุ มีเพื่อนเก่งสังคม เลยไม่อ่านหนังสือ )

เอาละเมื่อได้คำตอบแล้ว เอาคำถามนี้ไปลองตอบเล่นๆ ต่อนะ ......  
  • ประเทศไทย กู้ IMF มาแล้วกี่ครั้ง ????
  • ไทยไปฟ้องเรื่อง ข้อพิพาทอะไรกะ EU (สินค้าตัวนั้นคือ ???)
  • ร่าง พรบ. กู้ 2.2 ล้านบาท .... ไทยจะไปกู้ใคร  (IMF หรือ IBRD หรืออย่างอื่น ใครรู้ปะ ... ตอบนะ ข้อนี้ชั้นก็ไม่รู้วะ หุหุ)
  • ประเทศไทยเคยกู้ ADB หรือไม่ ?
  • ไทย ไปกู้เงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศบ่อยๆ .... ดีหรือไม่ จงบอกเหตุผล .... 
  • ไทย ไปกู้เงินบ่อยๆ เพราะเครดิตดี หรือ เป็นเพราะไม่ค่อยมีเงินใช้ (ตอบอ้างหลักการนะ อย่าอ้างตามอารมณ์ คริคริ)

  •  ใน ASEAN ประเทศไทยได้รับยุทธศาตร์การพัฒนาด้านไหน (ในนี้ตอบว่า ไทยจะเป็น Hub สาขาการท่องเที่ยวและการบิน
  • จากข้อบน .... เวียดนามจะเป็น Hub ด้าน Logistics เลยต้องมีรถไฟฟ้า ไปลาว เวียดนาม จีน และอื่นๆ
  • จากข้อบน .... กู้ 2.2 ล้าน เอามาทำเกี่ยวกะการบินแทนดีปะ ???? (ใครรู้จัก ท่านชัชชาติ ฝากถามหน่อยนะ อิอิ ชั้นแอบงง ... อ่านเอง งงเอง ... อันนี้ตอบตรงๆ ว่าไม่รู้จริงๆ)

  • ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน ... ประเทศไหนกู้บ่อยสุด อิอิ
  • จากข้อข้างต้น .... แสดงว่าประเทศที่กู้บ่อยสุด จะเครดิตดีที่สุด ใช่ไหม (ตอบตามความเข้าใจ)

  • ข้อสุดท้าย ... การเปิดเสรีการค้าและเศรษฐกิจ .... เค้าบอกว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะ เสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ ดังนั้น .... เราควรไปเข้าร่วมเปิดเสรีการค้าหรือไม่ (ตอบให้ว่า ควรอย่างที่สุด !!!! .... แต่แอบงงเหตุผลที่ตัวเองตอบ .... หึหึ คาใจมาก ถามใครดีวะ)
อ่านแล้วก็ไม่ค่อยได้คำตอบหรอก ..... แต่ก็เพลินดี ถามตัวเองตลอดเวลา ..... ไปทำไรอยู่วะ ทำไมเรื่องแบบนี้ ไม่มีติดสมองเลย ฮามากกกก 

กลับมาถามตัวเอง ..... ถ้าได้ที่สุดท้าย จะเสียใจไหม ?
ไม่รู้สิ ..... รู้แต่ว่า ..... เริ่มไม่คิดมาก 

อะนะ ..... ลองดู ลองตอบดู ..... สนุกดี ....confirm ว่าสนุกคะ 


วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

Update การสอบ อบจ. และการเมือง



ช่วงนี้ .... ชั้นไปนั่งสาระแน่ แห่นาค เรื่องการเมือง เยอะมาก  

อาจจะเพราะลึก ๆ ..... ชั้นไม่ชอบที่ผู้ชายด่าผู้หญิง !!!! ชั้นรู้ว่ามีข่าวออกมาเยอะ .... ทั้งการโกง นโยบายที่บริหารงานผิด เงินกู้ ที่ให้ประเทศแตกเป็น 2 ฝ่าย .... มากมาย เยอะแยะ และ ถ้ามันเกิดความผิดพลาดจริง .... ผู้ทำผิดควรโดนสอบสวน 

แต่การที่ผู้ชายขึ้นไปบนเวที แล้ว ด่าผู้หญิงว่า แรด ร่าน 
มั่นใจว่า การกระทำนั้น ..... คือการละเมิดสิทธิของสตรี 


เอาหละ ..... ด้วยเดชะบุญ 
เพราะจะสอบ อบจ ..... แถมลงทุนไปซื้อหนังสือมาเกือบ 700 บาท (ไม่ได้ตั้งใจว่าต้องสอบให้ได้ ตั้งใจแค่ว่า ไม่เป็นที่ 900 ก็พอ สบายใจ จบ .... ทำตามปณิธาณ พระราชบิดา วงการสาธารณสุขไทยเสร็จศัพท์ ครบทุกกระบวนเหตุผล --- สอบไม่ติดทีนี้ก็จะได้สบายใจ หุหุ ไม่มีอะไรติดค้างใจ) ..... นอกเรื่องไปเยอะ ..... จะบอกแค่ว่า การอ่านหนังสือสอบ 
มันทำให้เราเอง ได้ทบทวน ความรู้ ทั้งที่เคยรู้ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ และรู้มาแบบผิด เกี่ยวกับการเมือง ได้อย่างลึกทุกซอกมุม  .... !!!!  

(ฮ่าๆๆ ไปถูกทางแล้วอิหนู ในที่สุดก็ได้ ไม้บรรทัดมาวัดซักทีว่าการกระทำนี้ นอกลู่ไปไหม เยอะไปรึเปล่า หรือ โดนรังแกกันจริงไหม ?????? )


หมายเหตุ การสอบ อบจ. ต้องมีความรู้เรื่อง กฎหมาย พรบ. กฎหมายจากศาล ทั้ง ศาลยุติธรรม ศาลทหาร ศาลรัฐธรรมนูธ ศาลปกครอง และความรู้ทั้งหมด ในการบริหารแผ่นดิน ..... เรียกว่า นั่งอ่านแล้วเพลินเลย ..... หุหุ แต่ตอนสอบกลับ ได้คะแนน น้อยม๊วาก  ยี่สิบคะแนน เต็มสองร้อย ..... ชีวิตชั้นไปนั่งทำอะไรอยู่วะ ..... ทำไมความรู้เรื่องกฎหมาย สังคม การบริหารมีน้อยจังวะ เหอะๆ สนใจแต่เรื่องวิทยาศาสตร์จนลืมบ้านเมืองนะเนี้ยะ วะ ฮ่าๆๆๆ 


ทีนี้ ม๊อบอย่ามาแถ รัฐบาลอย่ามาโกหก 
ต่อไปดิฉันจะพิจารณาตามรัฐธรรมนูธ ฉบับ 2550 เลยนะคะ  
(Surprise มากอีกเรื่อง ... เพราะรัฐธรรมนูธไทย เขียนกันใหม่บ่อยเหลือเกิน ว่ะ ฮ่าๆๆๆ ฉบับล่าสุด จะถึงที่ 20 แล้วคะ ประเทศอื่นเค้ามีกัน 2-3 ฉบับเอง )

เอาเบาๆ ที่เรื่องตั้งแต่
ประเด็นแรก คำว่า  .... สาธารณรัฐ ราชอาณาจักร สหพันรัฐ .... 
เราเรียกแต่ละประเทศก็แตกต่างกันแล้ว .... เพราะจากการปกครองคะ 
ประเทศไทย ใช้อย่างชัดเจนว่า ...... ราชอาณาจักรไทย 
แปลง่ายๆ ว่า .... ดินแดนที่มีการปกครองระบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขคะ 
ดังนั้น .... เราจะใช้คำว่า .... รัฎฐาธิปัตย์ได้ไหมคะ ???? (คิดคำตอบในใจเอาเองนะ ไม่มีเฉลยจ้า) 


ประเด็นข้อ 2 กฏหมาย รัฐธรรมนูธ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ถ้ามีกฎหมายฉบับอื่นมาค้านให้มีอันตกไป (ข้อนี้สำคัญนะคะ ..... เพราะถ้าพิจารณาต่อ มีหลายเรื่องเลยละ ที่ขัดกับรัฐธรรมนูธจริงๆ)


รัฐธรรมนูญ มาตราที่ 1 ประเทศไทยอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกไม่ได้
ทีนี้ .... จะแยกไทยเหนือ ไทยใต้ได้ไหมคะ ? (กรูเฉลยให้เลยคะ ว่าไม่ได้ !!!!!!!!!!!!!!!  (ต้องใช้คำหยาบคะจะได้เห็นภาพชัดๆ อิอิ) .... เพราะถ้ามีการแบ่งแยกจริงๆ รัฐธรรมนูธจะโดนฉีก ประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่ ซึ่งเหตุการณ์ที่จะตามมา .... คือการนองเลือด สงครามกลางเมือง อย่างรุนแรง แบบที่หลายประเทศเคยประสบ .... เอาละ ใครอยากจะขัดแย้งทะเลาะ ตามสบายนะคะ .... ดิฉันไม่สนับสนุนคะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย (ย้ำนะคะ ว่าอำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนชาวไทย แต่ !!!!!!!!!!!!! อ่านวรรคต่อไปด้วยคะ .... มี)  ..... พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้น (ย้ำนะคะ ว่าพระมหากษัตรย์ เป็นผู้อำนาจใช้) ..... ทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญนี้

หุหุ .... ทีนี้ พวกที่เรียกร้อง ประชาธิปไตยเต็มใบ ถูกต้องไหมคะ ?( ตอบเองนะคะ .... ข้อนี้ไม่เฉลย เพราะดิชั้นมั่นใจว่า ตัวเองกำลังใช้ประชาธิปไตยถูกต้องตามรัฐธรรมนูธแน่นอนคะ คือไม่มากไป และไม่น้อยไปและอยู่ภายใต้ขอบเขตแน่นอนคะ !!!!)


ใจความสำคัญของรัฐธรรมนูธฉบับล่าสุดที่แก้ตอนปฏิวัติรัฐประหาร (ที่ทำเอาทั้งโลกฮือฮา เพราะทหารได้ดอกไม้หยั่งกะ นักกร้องเกาหลี )..... และดิฉันมั่นใจว่า ข้อนี้ ดีสุดกับการพัฒนาประเทศ คือ .....

สิทธการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันถึง 12 ปี (มาตรา 43) ....  และปัจจุบันกำลังผลักดัน ให้เรียนฟรีไปถึงระดับ ม.3 และ ม.6 ..... โดยนโยบายของนายกอภิสิทธิ์ ย้ำนะคะ ว่าเป็นของเฮีย อภิสิทธิ์จริงๆ !!!!!! ...... 
เพราะเห็นพี่ท่านผลักดันนโยบายนี้มาตลอดและเป็นนโยบายเดียว ที่ไม่สำเร็จซักที รัฐมนตรีไม่สนับสนุน .... เนื่องจาก มันเห็นไม่ชัด เท่าสร้างถนน รถไฟ แจกของ แจกบ้าน แจกรถ  ไม่ประชานิยม ไม่ง้อผู้ลงทุนในประเทศ เป็นนโยบายคนดี (แต่ไม่มีใครเห็นด้วย )  ...... 

แต่ถ้าถามว่าอีก 50 ปีข้างหน้าคนไทยได้รับการศึกษาครบ 100 % เหมือนยุโรปและอเมริกาไหม????  ....... 

ชั้นมั่นใจคะ .... ว่าอภิสิทธิ์กำลังติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน !!!!  .....(เนี้ยะแหละ ที่ทำให้ชั้นชื่นชอบผู้ชายธรรมดา คนนี้ .... ชั้นมีสิทธิจะชื่นชอบอดีตนายกคนนี้คะ อย่ามาด่ากัน คนเราทุกคนมีเหตุผล) 
นอกเรื่อง เวิ่นเวอร์ไปหน่อย .... ไม่เกี่ยวกะการเมือง ....

มาอีกข้อที่.... สาระสำคัญของรัฐธรรมนูธ 2550 เหตุผลในการฉีกเล่มเก่าแล้วเขียนใหม่ คือ
การปฏิรูปประเทศ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (เฉลยตามข้อสอบ อบจ. เลยนะ ชั้นไม่ได้แต่งเองด้วยโว้ยยย) ..... 

คุ้นๆไหมคะ ว่าตอนนี้มีใครกำลังเรียกร้องเรื่องนี้อยู่ ?????? ..... 

  • ตกลง ประเทศไทย เราจะปฏิรูปอีกกี่รอบคะ ?????? ..... 
  • เราจะฉีกรัฐธรรมนูธกันอีกกี่ครั้งคะ ???????  
  • รัฐธรรมนูธ ศักดิ์สิทธ จนต้องมีวันรัฐธรรมนูธไม่ใช่เหรอคะ ??????  
  • แล้วเราจะฉีกใหม่แล้วเขียน ฉีกแล้วเขียน บ่อยไปไหมคะ ??????
ไม่มีเฉลยคะ ..... ตอบกันเอง ตามความชอบ ความเชื่อ และศรัทธา...... 
เพราะข้อนี้ดิฉันก็ตอบไม่ถูกคะ ปล่อย Blank คะ หุหุ 



ประเด็น ที่ 4 ..... หน้าที่ของประชาชนคนไทย (อันนี้สำคัญนะ ชั้นว่า ควรจะให้เด็กน้อยท่องกันตั้งแต่เด็กดีไหม .... เพราะตัวดิฉันเอง ก็เพิ่งรู้และเข้าใจวันนี้เองเหมือนกัน แอบสะดุ้งเฮือก !!!!) 

มาตรา 70   คนไทยมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือ  

  1. คุณต้องพิทักษ์รักษาสถาบันนะคะเพราะเป็นหน้าที่ !!!!!!!!!! * (จำและท่องไว้นะคะ ว่าที่ต้องพิทักษ์ รักษา เพราะเป็นหน้าที่....ไม่ใช่ สิทธิ เสรี ที่ใครจะทำหรือ ไม่ทำก็ได้ ....  ย้ำอีกทีว่าเป็นหน้าที่****** ดังนั้นประเด็น ตั้งอาชีวะ เคลียร์นะคะ.... )
  2. คุณควรจะพิทักษ์รักษา ศาสนาประจำหลักของชาติ (คือพุทธ) ... และห้ามด่าศาสนาอื่นโดยเด็ดขาดเพราะ ... มันเป็นหน้าที่ (ไม่ใช่จิตสำนึก หรือ สิทธิ เสรีภาพแล้วนะ ....  ฉะนั้น ถ้าคุณเป็นคนไทย ห้ามวิจารย์ศาสนาคนอื่นโดยเด็ดขาด !!!!!!!!!!! .... แม้เค้าจะบูชาผี เทวดา เทพารักษ์ก็ตาม ห้ามออกความคิดเห็นวิพากษ์ วิจารย์ใดๆทั้งสิ้น สำคัญคะ การวิพาษณ์วิจารณ์สุดท้ายจะเกิดความขัดแข้งทางความเชื่อ และศาสนาประจำชาติจะถูกทำลายคะ .... ย้ำอีกทีนะคะ ..... ถึงดิฉันจะเป็นคริสเตียน แต่ด้วยหน้าที่คนไทย ดิฉันควรพิทักษ์และรักษาไว้ซึ่งศาสนาประจำชาติของราชอาณาจักรนี้คะ ..... จบนะคะ ..... ปล. เพิ่งรู้เหมือนกัน ตอนแรก คิดว่าเป็นเรื่อง สิทธิ เสรีภาพซะอีก หุหุ ..... พลาดไปเยอะเลยกรู .... )  
  3. คุณต้องพิทักษ์รักษาชาติ .... ( อันนี้มั่นใจว่าทุกคนเคลียร์คะ ประเด็นนี้ไม่มีปัญหา )



ประเด็นสุดท้าย เห็นเถียงกันจัง ..... เถียงกันทีวีแทบฟัง มาคะ เดี๋ยวเจ๊ตอบให้ ..... ข้อนี้มั่นใจว่าตัวเองตอบถูกได้คะแนนแน่นอน 1000% !!!!!!!!!!!!! คือ .....

ประเด็นการเลือกตั้ง 2 กพ 2557

จะไปเลือกตั้งดีไหม .......ตอบให้เลยคะ ..... 
ถ้ามีการกางเต็นท์ มีคูหา มีบัตรและเจ้าหน้าที่รอคุณอยู่ 
คุณต้องไปเลือกตั้งแน่นอนคะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ย้ำอีกรอบนะคะ ...... ว่าต้อง ไปเลือกตั้ง 

อันนี้จะไม่ใช่เรื่อง ..... สิทธิ เสรีภาพ นะคะ... (ซึ่งตอนแรกดิฉันก็เข้าใจว่า เป็นเสรีภาพ ใครจะไปก็ได้ไม่ไปก็ได้ เอาจริงๆ ชั้นเข้าใจว่ามันเป็นอย่างนั้น ...  สรุปว่าคิดผิดไปเยอะมาก อิอิ ..... แต่ไม่ต้องเสียใจคะ คนในม๊อบอีก เกือบ 2 ล้านเค้าก็เข้าใจเหมือนดิฉันคะ ฮ่าๆๆ )

สรุปว่า ..... 
บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูธคะ (มาตรา 72) 
ย้ำอีกทีว่าเป็นหน้าที่นะคะ .... ไม่ใช่เสรีภาพ ต้องไปคะ ต้องไป 

แต่ถ้าไม่ไปใช้สิทธิ ก็ต้องไปแจ้งเหตุผลนะ อย่าหายไป ..... แจ้งไปว่า .... ป่วย ท้องเสีย เพลีย เกิดอาการ รำคาญ ไม่ศรัทธา ไม่เชื่อว่าจะโปร่งใส อะไรก็ได้ แต่อย่าลืมไปบอกกันกันดีๆ นะคะ  ..... 

ไม่ชอบ เสื้อแดง ไม่ชอบยิ่งลักษณ์ รักพี่เทพ ไม่ไปใช้สิทธิก็ได้  ..... แต่อย่าลืมไปแจ้งเหตุผลซะนะ 
หน้าที่คุณคะ .... คุณต้องทำ !!!!!!!

เอาเป็นว่า ..... บทความนี้ ยาวมากกกกกกก  นี่แค่เรื่องหลักๆนะ ...... ยังไม่รวม สส. สว. สรรหา . การยกมืออภิปราย การประชุม การถอดถอน ...... มีอีกเยอะ อ้างกันไม่จบไม่สิ้น .... 


เดี่ยวอัพเดท ข้อมูลการสอบครั้งหน้า ......
จะเขียน ถึงเรื่อง .... พรบ. สาธารณสุข ตลาด ความสะอาด ขยะ และการกำจัดขยะติดเชื้อ 
ที่ขอบอกว่า ....

เหอะๆ กฏหมายประเทศชั้น ..... เข้มและละเอียดกว่าคนอื่นเป็นไหนๆ.....มีความชัดเจนมากกกกก

เช่น รู้ไหมคะ .... ถ้าคุณถ่มน้ำลายลงบนพื้นทางเท้า จริงๆต้องโดนปรับและติดคุกด้วยนะคะ !!!!!! .... 
เพราะถือเป็นการแพร่เชื่อโรคตามหลักการควบคุมการระบาดของ CDC
แต่แปลกที่ไหม ..... ที่ประชากรไทย กลับทำกันอย่างเป็นปกติ 
  • เพราะกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ
  • หรือเพราะ .... เราทำเป็น ..."ไม่รู้" กันแน่ !!! 

อะนะ ..... เขียนคำตอบกันเองเองนะคะ ..... อันนี้ดิฉันไม่มีเฉลยคะ อันนี้ก็ไม่รู้จริงๆ .....  


วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

Private Practice




Finally Season ..... ชอบตอนจบของทุกคู่ 

  • แอดดิสัน ...... จบได้ แบ๊วมาก (ได้แต่งงาน มีลูกซะที ตอนอายุ 40 เริ่ดปะละ)
  • ชอร์ลอต คิง ....... จบได้เท่ห์เว่อร์ (และ she ก็ไม่ได้แรง แข็งจนมากเกินไป มีลูกแล้วแอบแผ่ว ความร้ายลง น่ารักว่ะ)
  • เอมิลี่ ........ จบชนิดที่ต้องร้องไห้ หลั่งน้ำตา (บทเขียนให้ she สุดโต่งมาก ดีสุด เลวสุด เก่งสุด เปรี้ยวสุด มั่นมาก เว่อร์คอตๆ)
  • ไวโอเล็ต ..... ผู้หญิงคนนี้  ....  แอบงง แอบทึ่ง และแอบสงสารมากๆ ..... แต่ she ก็เก่งนะ ไม่ว่าจะป็นเจอคนโรคจิต โดนผ่าท้อง โดนฟ้องร้อง ผัวตาย โดนทำร้าย .... she ก็ผ่านมันไปได้ทุกครั้ง ...... อาจจะ ไวโอเล็ตเป็นจิตแพทย์ด้วยมั้ง .... บทเลยเขียนให้เธอ Hardcore มาก .... สรุป ชอบคะ 
  • นาโอมิ กลับ มาคบกะ แซม ..... ฮ่วยยยย คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน 
ปล. จริงๆ เรื่องนี้เรตติ้งไม่ดีเลยนะ ..... แต่ขอบอกเลยว่า ชอบมากกกกกกก


ตอนนี้กำลังลุ้นเรื่อง Grey's Anatomy Season สุดท้ายยยย 

สรุป April จะเลือกใคร .... ระหว่าง 
  • แจ็คสัน ที่หล่อ ล่ำ รวย และน่ากิน ผู้ได้เวอร์จิ้นแรกของ she 
  • หรือ จะเป็น หนุ่ม Ambulance ว่าที่สามี ที่น่ารัก นิสัยดีและ cute  คนที่ไม่รวยแต่รักจริง ตั้งใจ 
(เชียร์หนุ่ม Ambulance คะ .... ชั้นชอบผู้ชายแบบนี้ เค้าเท่ห์ดี จริงใจด้วย) 
หุหุ ..... เอาเป็นว่า ลองไปดู .... ทั้งสองเรื่อง โอเครมาก .... แนะนำไป เผื่อใครชอบ 

อ่อนน้อม VS มั่นใจ



เมื่อคืนคุยกับ My Love (Khali) ..... 
แม้ชั้นจะรู้ดีว่า พี่ท่านมีหลายร่างทรงเหลือเกิน คุยกันแต่ละที แอบงง ..... 
เหมือน ออกแนว ริวจิตสัมผัส วันนี้มาร่างทรงไหนวะ .... เอ๊ะ ล้อเล่นกันอีกแหง 

แถมไปดูในเฟส ก็ยิ่งมั่นใจ ฮ่าๆๆๆๆ คุยหลายคนนี่หว่า 
นี่ขนาด Pubic Status In Relationship with Me กันไปแล้วนะเนี้ยะ ..... สาวๆทักในเฟสเกรียวกราวเชียว 

แต่ชั้นไม่คิดไร .... บอกตรงๆ ว่าเริ่มไม่ซีเรียส
เพราะค่อนข้างมีความมั่นใจที่แข็งและแกร่งมากๆ .... 
(บางทีก็รู้สึกว่า ตัวเองออกแนวหน้าไม่อายวะด้วย ฮ่าๆๆ) ......  
ถ้าคิดว่า ในอายุ 30 แล้วจะต้องร้องไห้ หรือเสียใจกับเรื่องผู้ชาย 
ขอ สะบัดบ๊อบใส่ดีกว่า !!!!!!!!!!! ...... 

ถ้าคุณมีความ อ่อนน้อม ถ่อมตนมากๆ .... จะมีคนรักและเอ็นดูเยอะ
แต่ถ้าคุณมีความมั่นใจ ..... ไม่ค่อยมีใครรักคุณหรอก เค้าจะเชื่อใจมากกว่า ว่ามันเป็นแบบนี้นี่เอง เข้าใจละ โอเคร .... มีจุดเด่น จุดด้อยตรงไหน .... เอามาใช้งานด้านใดดีวะ บลา บลา บลา

ของที่เรารัก .... เราจะไม่ใช้ จะทะนุถนอม (เหมือนเครื่องแก้วเจียรนัยราคาแพงๆ)
แต่ของที่เรามั่นใจ .... จะโดนใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า โนเกีย ซัมซุง ไอโฟน ไอแฟด 

บางคนชอบ .... เป็นคนรัก รู้สึกตัวเอง บอบบาง น่าทะนุถนอม 
และชั้นชอบ ... ให้คนอื่นเห็นคุณค่า ดีกว่าให้คนอื่นมารัก !!!!! 


Protocol ของผู้หญิงใสซื่อ .... จะมีเป็น step ดังนี้

  1. รักมาก รักเดียว ใจเดียว รักมาก ยอมตายถวายชีวิต บูชาฟามรัก บลา บลา บลา 
  2. โดนหลอก โดนทิ้ง 
  3. รักใหม่ รักเดียว ใจเดียว 
  4. โดนหลอก โดนทิ้งอีกรอบ 
  5. เริ่มรักเดียว แต่เริ่มไม่จริงจัง 
  6. โดนหลอก 
  7. ก็ยังรักจริงนั่นแหละ แต่เริ่มเฉยๆ 
  8. โดนหลอก
  9. ก็ยังรักจริงนั่นแหละ ..... แต่สุดท้าย ..... เราจะไม่มีน้ำตา รู้สึกเฉยๆ แม้จะถูกหลอกอีกพันๆครั้ง ไม่มีอะไรจะเสียใจ แค่ชิลๆ .... และปล่อยวาง 

ชั้นมั่นใจว่า ..... ผู้ชายทั้งโลก ชอบผู้หญิงอ่อนหวาน อ่อนโยน และถ่อมตัว 
ซึ่งถ้าเราไม่ใช่แนวนั้น ..... และไม่สามารถ สร้างสมดุลย์มันได้ ...... 

จงทำใจซะ อย่าคิดไรมาก ...... 
การอยู่คนเดียวบนโลกนี้ มันไม่ได้โหดร้ายอย่างที่คิด 
Fairy tail มีเฉพาะในการ์ตูนดิสนี่ ...... 

ชีวิตของผู้หญิงแบบชั้น ..... 
ออกแนว Grey's Anatomy หรือ Private Practice มากกว่า 


นั่งเมาท์กะป้าข้างบ้าน .....ป้าออกแนวเข้าข้างสุเทพม๊ากๆ ป้าบอกว่า ได้รุ้อะไรที่ไม่เคยรู้ และที่สำคัญ ..... อีปู ดอกทอง !!!!!!!!! เป็นนายก ไม่ควรดอกทอง !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 


ชั้นยังยืนยันความคิดเดิมว่า ..... เรื่องบนเตียง มันเรื่องส่วนตัว 
โตแล้วจะนอนกับใครก็ได้ มันเรื่องส่วนตัว จริงๆ 


เราไม่มีทางรู้หรอกว่า ..... 
ชีวิตคู่ของคนอื่น มันขื่มขมหรือเปล่า เค้าอยู่กันได้จริงไหม เกิดอะไรขึ้น 
เค้ารู้สึกทุกข์ระทม จนทนไม่ไหวรึเปล่า .... เราไม่รู้ 

เรารู้แค่ว่า ถ้าคนเรามีหย่าร้าง หรือแต่งงานใหม่ ..... แปลว่าผู้หญิงคนนั้นดอกทอง !!!!!!!!!!!!!!!!! 
ไม่ยอมมีผัวเดียว 


แล้วตรรกะความจริงของโลก มันใช่รึเปล่า 
อย่ามาเถียง ชั้นเห็นวงการไฮโซ คนรวย ชนชั้นสูง มีการหย่าร้างกันเยอะแยะไป .... แล้วมันแปลว่า เค้าดอกทองจริงหรือ ???? 


ชั้นรู้ว่า ..... ชั้นไม่ควรไปเปลี่ยนแปลง ความเชื่อ วัฒนธรรม 
ชั้นควรอัปเปหิตัวเอง ไปอยู่ในสังคมที่เค้าเชื่อ และมีวัฒนธรรมเดียวกัน .... 
แค่รู้สึกว่า ....... ถ้าจะด่ากันเรื่องการเมือง 
ด่าเรื่องงาน บริหาร พรบ. รัฐธรรมนูธ เครษฐกิจ การค้า ...... 
มีเรื่องเป็นล้านให้ด่า ขุดขึ้นมาทำประชาพิจารณ์ 



แต่ถ้าด่าว่าผู้หญิงดอกทอง ..... ชั้นว่า หยุดเถอะ !!!!!!!! 


ผู้หญิงอาจจะเกิดจากกระดูกซี่โครงของผู้ชาย .... 
แต่ผู้ชายก็มีซี่โครงอันอื่นอีก ตั้ง 33 ซี่ .....

และผู้หญิง เมื่อถุกดึงออกมาแล้ว ...... แปลว่า จริงๆ เธอมีอิสระตั้งครึ่งหนึ่ง ที่จะตัดสินใจ และเป้นตัวของตัวเอง ....... 


ชั้นขอโทษจริงๆ คะ 
ที่มีความมั่นใจ มากกว่าความอ่อนน้อม 


สุดท้าย .... 
การโชว์ Naked ให้แฟนดู มันจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ รับไม่ได้ .... 
แต่ถ้าทำไแล้ว ภาพหลุด คนได้ดูกันทั้งโลก .... ดิฉันก็ยังมั่นใจว่าเฉยๆ ..... 


อะไรมันก็เกิดขึ้นได้คะ ..... บนโลกกลมๆ ใบนี้ 
แค่เคารพความคิดเห็นคนอื่น และไม่ต้องคาดหวังให้ใครมาเข้าใจเรา จะดีกว่า