วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กลับบ้านเถอะ .... วันนี้ชั้นอยากอยู่เงียบๆ

กลับบ้านเถอะ ..... วันนี้ชั้นอยากอยู่เงียบๆ 

ครั้งหนึ่งตอนเรียนของอาจารย์ ปูม .... ชั้นสอบตก ได้ เกรด D-Dog มาครอบครอง ..... 
จ้อม เป็นคนติวให้ .... แต่ตอนนั้นมันไม่ไหวจริงๆ ไม่สบาย ถึงขั้นนอนโรงพยาบาล 
เลยไปสอบไม่ไหว .... ขาดสอบด้วย แต่อาจารย์ใจดี สุดท้ายไปสอบซ่อมคนเดียว และแม้จะพยายามอ่านหนังสือเท่าไหร่ .... แต่เกรดที่ได้คงไม่เกิน C (อาจารย์บอกตั้งแต่แรกที่ขาดสอบ)

ชั้นเดินออกมาจากคณะ แบบซึมๆ ...... 
ไอ้จ้อม ..... มองตามมาเงียบๆ เหมือนจะเข้ามาปลอบ 
แต่จากปฏิกิริยาของชั้น ..... มันคงเดาออก ..... ประมาณว่า 

พวกแกร์ กลับบ้านไปเถอะ  
ชั้นอยากอยู่เงียบๆ 

ชั้นไม่ได้เป็นอะไร ..... ไม่ได้ร้องกรี๊ดๆ เสียใจ สะเทือนขวัญ 
ชั้นแค่มองตาไอ้จ้อม ..... เหมือนจะพูดว่า ปล่อยชั้นซักพักเถอะแกร์ .... ชั้นโอเคร

จ้อม กับ หมู เป็น  Mate ร่วมห้องกัน 
พี่หมูเป็นคนที่มีบุญคุณกับชั้นพอสมควร  
พี่หมู ไม่เคยติว ไม่เคยสอน ไม่เคยยุ่งวุ่นวายกับชีวิตชั้นหรอก พี่หมูมักนั่งยิ้มขำๆ นั่งแซวชั้นเวลาทะเลาะกับไอ่จ้อมมากกว่า  ..... แต่เชื่อไหม ..... แม้จะสนิทกับจ้อมขนาดไหน 
เวลาไม่สบายใจ ..... ชั้นกลับนึกถึงแต่พี่หมู คนเดียวเท่านั้น

อืม ..... ถ้าใครเคยอ่านเอนทรี่นี้ ..... คงจะพอเดาๆได้ว่า 
ชั้นเคยแอบชอบจ้อม ..... เพื่อนสนิท คิดไม่ซื่อ ..... 
แต่ตอนนี้ ไม่คิดไรแล้วจริงๆ เป็นเพื่อนเท่านั้น นั่งขำกับมันทุกวัน  อินี่ก็แอบด่าชั้นตร๊อด !!! 



แล้วเคยดูเรื่องเพื่อนสนิทไหม 
พระเอกเรื่องนี้ ..... ชื่่อหมู ชั้นดูเรื่องนี้รอบที่ล้าน ..... เพราะติดใจกับประโยคที่ว่า

ดากานดา ชั้นรักแกร์วะ 
แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้ (นางเอกตอบ)

เรื่องนี้เศร้าอะ ...... เศร้ามาก 
หมูรักเพื่อน .... แล้วทำไมไม่พูด .... 
ดากานดาเลยคิดว่าที่หมูทำไปทั้งหมด เพราะแค่เพื่อน แค่ห่วงใย แค่คนสนิท แค่น้องสาว แค่สงสาร แค่อยากช่วย .... เห็นดากานดา ร่าเริง เลยอยากอยู่ใกล้ เห็นมันโก๊ะกัง เลยแหย่เล่น ไม่คิดไร  

และที่สำคัญ .... หมูยังแนะนำผู้ชายอื่น ให้ดากานดาด้วย (เป็นชั้น .... ชั้นก็ไม่คิดหรอกว่าหมูจะชอบหรอก  ก็ไม่เห็นมันพูดอะไรซักคำ)

สุดท้ายแล้ว....เรื่องนี้
หมูหนีไปอยู่ที่ เกาะสมุย หลังจากบอกรัก ดากานดา ใต้ต้นชงโคตอนสอบเสร็จ (เป็นไงเจ๊จำได้แม่นใช่ไหม แหมหนังในดวงใจ จะลืมได้ไง หึหึ) ..... 

ไปนั่งเขียนจดหมาย ทุกวัน ทุกวัน แล้วมโนไปว่า ..... ดากานดา ได้อ่าน 
อืมจินตนาการเจิดกันทั้งเรื่อง 

สุดท้าย ..... ดากานดา ก็ไม่ได้กับหมูหรอก   พี่หมูได้กับคนอื่น 

ถ้าชั้นเป็นนางเอกเรื่องนี้ ...... 
จะลากพี่หมูมาถามตรงๆ มองตามันชัดๆ 
แกร์ชอบชั้นปะว่ะ หมู !!!!!!!!!!!!!! ..... ตอบ ? 

หรือถ้าชั้นเป็นพระเอก ..... 
ก็จะตบกะโลหก นางเอกซักที แล้วพูดว่า หยุดเล่นได้แล้ว ดากานดา มองตาชั้นสิ 
ชั้นชอบแกร์ !!!!!!!! เลิกทำเป็นไม่รู้ตัวซักที ??? 

เสียแต่ว่า ..... ชั้นไม่ใช่นางเอก และไม่ใช่พี่เอส คมกริช ที่เขียนบทด้วย นะสิ
เลยได้แต่นั่งดู ..... ทั้งคู่ เพ้อเจ้อและพลัดพรากจากกันในที่สุด  ..... หุหุ 

วันนี้ ..... กลับบ้านกันไปเถอะ ...... 
ชั้นไม่่ดู กุหลาบร้ายของนายตะวัน ไม่ดูสามีตีตรา หรอก ไม่ต้องคอย ..... เดี๋ยวว่างๆ จะทำตารางให้ คนอื่นจะได้ไม่ต้องรอ โอเครไหม กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ 

ชั้นจะดู เรื่องเพื่อนสนิท ..... 

ปล....... ซันนี่ กับบทของพี่หมู มันไม่ค่อยเข้ากันเนอะ 
อยากได้อนันดา มากกว่า คุณว่าไหม ...... 
แม้จะรู้ว่าสุดท้าย ..... ทั้งคู่จะไม่ได้กัน ...... 
แต่มันก็สนุกทุกที ที่ได้ดูไม่ใช่เหรอ ? 

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Lucky Number

เลขนำโชค ^_^ 

มาอัพเบาๆ ก่อนดูเรื่อง กุหลาบร้ายของนายตะวัน ...... 
วันนี้ มาอัพเรื่อง ...... เลขนำโชค ......

สมัยเรียนมหาลัย ..... คุณจำได้ไหมว่า ..... มีเลขประจำตัวอะไร .....
ทุกคนคงจะจำได้ดี ...... เรียกว่า เลขประจำตัว คือ หมายเลขลิขิตชีวิตก็ว่าได้ 

ใช่คะ เลขประจำตัว ดิฉันคือ ..... 4508069 

45 คือ ปีที่เข้าศึกษา = 2545 
08 คือ รหัสคณะ = สาธารณสุขศาสตร์ตั้งเป็นอันดับ 8 ของมหาลั (อันดับหนึ่งเป็นแพทย์ศิริราชคะ) 

ส่วน 3 ตัวหนังสุดท้าย ..... 
นี่แหละคะ ที่เราเรียกกันว่า .... เลขประจำตัว 
อะนะ .... อย่าเพิ่งฮา หึหึ 

ดิฉันมีเลขสามตัวสุดท้าย 069 จริงๆ คะ +"+ 
(อืมมมมม หนุ่มๆ ยิ้มกันใหญ่ ฮึฮึ)

สมัยเรียน ดิฉันไม่เคยมีปัญหา ..... เวลาอาจารย์สุ่มตัวเลข เพื่อเรียกให้ตอบ หรืออกไปรายงานหน้าชั้น เพราะอาจารย์ ทั้ง สาว หนุ่ม แก่ .... ไม่เคยเรียก เลขที่ 69 เล๊ย !!!!!! 
โชคดีชะมัด อิอิ 

ใครจะกล้าเรียกละ  .....  69  (ออกแนวส่อไปนะ ถ้าจงใจเรียกเลขที่นี้ )

เอาเป็นว่า เทอมแรกที่เรียน ..... อายมากกกกกกกกกกกกก 
คือ ..... พอลงแลป แล้วเพื่อนผู้ชายมันเห็น เรานั่งโต๊ะ 69 ทุกคนจะยิ้ม 

ตอนนั้นก็แบ๊วเนอะยังเด็ก ม.6 เอง  ..... เลยอายหน้าแดงมาก .... 
อยากจะไปกองทะเบียน ขอเปลี่ยนเลขที่ แทบทุกวัน ..... 

หึหึ ..... แต่พอยิ่งโต ยิ่งกร้านโลก 
เพราะ .... มันเป็นเหมือนความโชคดี ..... ที่อาจารย์ไม่เคยสนใจเลขที่นี้ สะใจจริงๆ !!!!! 

และจะมีเพื่อนอีกคน คะ ..... เลขที่สลับกับดิฉันเลย 
อะให้ทาย ..... ใช่คะ .... วัลลพ เลขที่ 096 ...... หึหึ 
อืม วัลลพ ที่ตอนนี้เป็นแฟน เก๋ ลูกชื่อน้อง ตะลุยนั่นแหละ ..... 
วัลลพ จะยิ้มฮาๆ ทุกครั้ง ..... กับเลขของเราทั้งสองคน
  • ลพ 096 
  • พร 069 
เพราะถ้าอาจารย์ไม่เรียกปิยะพร .... อาจารย์จะเรียก วัลภพ แทนเสมอ 
อิฉันรอดตัว ........ ทุกที ..... เหอะๆ โฮ๊ะๆๆๆ 

มาตอนนี้ ..... 
นึกไปกี่ทีก็ขำ เพราะเหมือนมันเป็นบทเรียนที่สอนให้เรารู้ว่า  ....
อะไรก็ตาม  ที่เรารู้สึกว่ามันแย่ในตอนแรก มันน่าอาย มันดูรูปชั่ว ตัวดำ 
ไม่ดีเอาซะเลย ไม่ชอบ ไม่ใช่ ไม่อยากได้  แต่พออยู่ไปนานๆ เราจะพบว่า 
สิ่งนั้นอาจจะมีดี ซ่อนอยู่ไม่น้อย ..... เหมือนเลข 69 .
แถมโต๊ะ 69 มักจะนั่งริม ลอกข้อสอบได้สะดวก สุดๆ คริคริ 

เพราะ 6 และ เลข 9 ....... เขียนเหมือนกันเป๊ะ !!!!! 
เพียงแต่สลับตำแหน่งหัว-หาง เท่านั้น 

แต่คนไทยกลับรังเกียจเลข 6 เพราะความหมาย ตรงกับ การหกล้ม เททิ้ง หล่นหาย 
ส่วนอีกตัว คือ 9 ..... คนไทยกลับชื่นชอบหนักหนา เพราะหมายถึง ความ ก้าวหน้า เจริญ รุ่งเรือง 

หุหุ ..... ดิฉันซวยคะ มาทั้งคู่เลย ....  ทั้ง 6 ทั้ง 9 . 
ชีวิต เลย หกคะเมนตีลังกา  ก้าวหน้า ก้าวหลัง  ยิ่งนัก 
เฮฮาได้อีก สวรรค์บันดาลชัดๆ ..... 

แต่ถ้าถามจริงๆ ว่าชอบเลขตัวไหน ตอบไม่ถูกคะ ..... 
แม้จะมีคนบอกเสมอว่า เลือก 1 เถอะ  is king one ? ...... ชั้นกลับเฉยๆ ..... 

ตั้งแต่ 0-9 ...... ชอบเลขไหนมากที่สุด ก็คงจะเป็น ....... (ลุ้นละสิ) ไม่บอกดีกว่า ....... 

เอาเป็นว่าความน่ารักของ ทั้ง 6 และ 9 ...... ตอนสมัยเรียนอะ มันเฮฮาพอสมควร 

 ..... จบดีกว่า ...... 69 my lucky number in memory ,,,,, 
อืม >>>> 69 nice point ,,,and please stop yr imaginations 5555 + , 

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หมอประเภทไหน ที่คุณ Like สุดๆ



อืมมมมมมม ....... บทความที่ไม่เกี่ยวกับ .... อะไรเลยยยย 
แค่มาเมาท์เล่นๆ 

อาจจะเพราะชีวิต ต้องทำงานด้านอุปกรณ์การแพทย์ และ ตลาดยาในโรงพยาบาลเยอะ 
ถามมาสิ เคยช่วยเพื่อน ปล่อยของขายจากโรงพยาบาลมาแล้วทั้งนัั้น 

(เหมือน พวกโจรเลยอะ ฮ่าๆๆๆ ปล่อยของลง OTC) 

ดังนั้นแน่นอนว่า ชีวิต ..... ต้องเคย ปะ ฉะ ดะ กับหมอมาแล้วทุกแผนก 
จิกกันจนน้ำลายแตกฟอง ฝอยกระเด็น เส้นเลือดกระจาด

แล้วหมอแผนกไหนละ ที่ พวกดีเทลยา ชอบเป็นที่สุด ?
เราโหวตกันว่า ....... 

หมอ MED น่ารักสุดจ้าาาาา (อันนี้คือผลโหวตโดยรวมนะ) 
หึหึ ... เหตุผล .... หมอ Med ..... ใช้ยาเยอะสุด และใจดี ที่สำคัญ ไม่เคยตะคอกใส่ ผู้แทนยา (เริ่ดเนอะ)

ต่อมา .... 

อันนี้ หมอประเภทที่ เจ๊ ชื่นชอบ คลั่งไคล้ มากสุด .......
บางคน เห็น เจ๊ชอบดูเกรย์ นึกว่าคงจะชอบ หมอสมอง หมอหัวใจ ศัลยกรรม หมอฟัน บลาๆๆๆ
หมายเหตุ .... อย่าลากไปเรื่อง แม๊ค ดรีมมี่ หรือ มาร์ค นะ ..... หยุดเรื่องนั้นไว้ก่อน ขี้เกียจแปล code 

จริงๆ ..... ในฐานะการทำตลาดอุปกรณ์การแพทย์อย่างโชกโชน 

ชั้นประทับใจ ..... หมอ Radio (หมอรังสี) และ หมอระบาด คะ ..... (ฮาไหม หึหึ) 

บางคนอาจจะงงๆ หมอรังสีมีด้วยเหรอ ?
มีคะ แต่มีไม่เยอะ หมอรังสี อยู่โรงพยาบาลใหญ่เท่านั้น 

หมอรังสี จะหน้าตาไม่เหมือน หมอ ..... จะ ซึมๆ มึนๆ งงๆ เหมือนพวกช่างถ่ายรูปมากกว่า ที่สำคัญ หมอรังสีจะมีอะไรแปลกๆ ในดวงตา (รังสีแกรมม่า แอลฟ่า เบต้า กระหน่ำแรงรึเปล่าก็ไม่รู้ ดูฮาๆ ดี) 

และที่สำคัญ .... หมอ รังสี .... ว่างมาก !!!!!!!!!!!!!!!!!
ถ้าหมอศัลย เวลาเเป็นเงินเป็นทอง เราต้องพูดเร็วๆ อย่าช้า สั้นๆ อย่าเยอะ 

แต่หมอรังสี ........... ว่างที่สุด
เคยถึงขั้น นั่งเชียร์บอล กับหมอในโรงพยาบาล มาแล้วทีเดียว  

บางที่ .... เคยเจอหมอรังสี .... โหนขึ้นไปซ่อม เครื่องฟลู ที่เพดาน..... 
จากนั้นกระโดน ตีลังกา 3 ตลบ  ไปซ่อมเครื่องเอกซ์เรย์ !!!! 
อืมมมมมมมมม ...... เหมือนเด็กช่างเทคนิคสุดๆ หยั่งกะเฉินหลง

มื่อก่อน ของฝากที่หมอรังสี ชอบคือ ...........Marker คะ
อะนะ .... เด็กสมัยนี้อาจจะไม่รู้จัก ..... 
เพราะโรงพยาบาลใช้ Pack  กันหมดแล้ว ระบบ Digital Image Processing 

แต่ถ้าเป็นเครื่อง เอ็กซ์เรย์สมัยก่อน จะต้องมี มาร์คเกอร์โลหะติดฟิล์ม ระบุ ซ้าย ขวา
และมักจะหายบ่อยที่สุด ดังนั้น ..... 

หมอรังสี จะเดาใจไม่ยากส์ เอามาร์คเกอร์ไปฝาก จบ !!!
มีเวลาคุยนาน เมาท์กันสนุก ชอบดูบอล
หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็จะเป็นคนที่ นิ่งๆ เรียบๆ ไม่เรื่องมาก (ร้อยละ 90 ใจเย็น) 

ชอบ ล่งเล้ง ตะโกน โลดโผนสุด .... ต้องหมอกระดูกคะ ..... (นี่ก็ hardcore มาก !!!! )

นอกจากนี้ ..... แปลกเนอะ .... 
หมอรังสี ทุกคน ชอบถ่ายรูป แถมถ่ายรูปสวยอีกตะหาก 
และที่สำคัญ ..... เก่ง computer สุดๆ ..... ประทับจัยยยยยย

จบดีกว่า .... เดี๋ยวว่างๆ จะมาเมาท์ หมอระบาด 
อะนะ .... เด็กสมัยนี้ อาจจะไม่รู้จัก เพราะ โรคระบาด หมดโลกไปแล้ว 

แต่ถ้าได้คุย แหมมมมมมมมม หมอระบาดแต่ละคน 
หยั่งกะนายพราน ....... เถื่อน และ ดิบ และ ฮาได้สุดๆ ...... 
หรือบางคนก็ออกแนว คุณชายไปเรยยยยย  เหมือน นายธนาคาร ผสมนักสถิติ บัญชี

ปล. หมอระบาดไม่เคยซื้อของไรหรอก (คุยไปก็ไม่ได้ยอด)  
หมอไม่เน้นรักษา เน้นทำวิจัย วิชาการ สถิติ แต่นิสัยน่ารักมากนะ ขำ และ ฮาสุดๆ 

ไปดีกว่า .....  จบสั้นๆ 

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หาไม่เจอ หรือ เธอไม่ตั้งใจ


กลิ่นหนูเน่าๆ ในบ้าน ตลบอบอวล .... พยายามหาอยู่พักใหญ่ แต่ไม่เจอ ..... 
กำลังถามตัวเองอย่างจริงจังว่า .....

หาไม่เจอ หรือ เธอไม่ตั้งใจ .....

ตื่นมาด้วยอาการ สลึมสะลือ ..... หลับไปกว่า 4-5 ชม. 
เป็นแบบนี้เสมอ หลังๆ ระบบของการพักผ่อนในชีวิตเรื่องรวนเร ..... นอนกลางวัน ตื่นกลางคืน 
เวลาหลับ .... จะมีสองแบบ (ไม่เกี่ยวกับการแพทย์นะ ) 

  • หลับแล้วอิ่ม ตื่นมา สดชื่น 
  • กับหลับไปนาน  4-5 ชม. แต่กลับไม่อิ่ม ตื่นมาปวดหัวมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หลังๆ เป็นแบบที่สองบ่อย ..... 
หลับเยอะ ก็ยังปวดหัว มึน ซึม เพลีย เพิ่มขึ้น 

อย่างนี้ เรียกว่า .... คนไข้พักผ่อนเต็มที่รึเปล่า 
แล้วมันดีต่อสุขภาพจริงดิ ?????? 

ไม่อยากไปหาคำตอบเยอะแยะ ..... 
จบสั้นๆ ดีกว่า ..... เดี๋ยวคืน นี้จะมาเขียนเรื่องการสื่อสาร ทางการตลาด ....
ตอนนี้ขอไปนั่งซึมๆ ซักพักนะ .....
ไม่ไหว ปวดหัว มึนได้อีกอักโข .....



วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กราบสวัสดี....วันศุกร์ที่เคารพ


คงไม่มีใครบนโลกนี้เกลียดวันศุกร์ ..... 

วันศุกร์ ใครๆ ก็จะได้เข้าสู่ความหันษา ของ เสาร์-อาทิตย์ ปิดๆ ไม่ต้องทำงาน 
ในประเทศแถบอิสลามมิก ..... วันศุกร์นับเป็นวันหยุด (เย้ๆ) ......

วันนี้ ตื่นมา มัดผมซะแน่น ..... 
มีคนเคยบอกว่า เวลาที่ดิฉันผูกผมหางม้า ยกสูง หน้าจะหยิ่งได้ใจไปอีก 12 step 
ใครๆ ก็บอกว่า เจ้เป็นคนมีหน้าผากสวย (ห้ามคิดลึก !!!) 
ควรหลีกลี่ยงการไว้หน้าม้า เพราะไม่เข้ากับหน้าเรา (เลยไม่กล้าตัด)

สมัยเรียนมหาลัยชอบผูกผมยกสูงหางม้าที่สุด ..... เนื่องจากดูเรียบร้อย 
แต่ผลจากการรวบตึง จะทำให้ปวดหัวบ่อยๆ (สาวๆ ทุกคนรู้ดี) 


ตื่นมาก็ซึมๆ มึนๆ อยากกินขนมปัง มว๊ากๆ ..... 
ถ้าเป็นขนมปัง วังหลังแถวศิริราช จะยิ่งอร่อย .... แหม เสียดาย ไม่ได้ไปแถวศิริราชอีกแล้ว 
วังหลังเป็นสถานที่ ที่น่าเที่ยวที่สุดแล้ว ในความรู้สึกฉัน 

ควรจะเริ่มที่ ..... ไปกินก๋วยเตี๋ยว ข้างๆ ธรรมศาสตร์ 
และก็ไปซื้อขนม มะขามหวาน หมูทอด อร่อยๆ 

จากนั้นก็ นั่งแพ ชิลๆ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ..... ไปฝั่งศิริราช 
แนะนำให้ไปที่ พระบรมรูปก่อน ไปทำบุญบริจาค หรือ กราบไหว้ .... พระบรมราชชนก ท่านเป็นคนแรกแห่ง วงการการแพทย์สาธารณสุขไทย ..... 

อาจารย์ที่คณะเคยสอนว่า .... พระบรมราชชนกเป็นเจ้าฟ้า ที่สละตัวเองเพื่อดูแลคนป่วยที่เป็นเพียง ชาวบ้านธรรมดา มือเปื้อนเลือด เปื้อนหนอง โดยมิเคยรังเกียจ หรือถือยศ ถือศักดิ์ .... นี่เลยเป็นเหตุผลที่เด็กสาสุข มักจะ กราบไหว้ ยกย่อง นับถือพระองค์ท่านอย่างสุดจิตสุดใจ .... 

จบจากทริป ศิริราช ..... 

เราก็ควรจะไปเดินเล่น วังหลัง ..... ขนมปังอร่อยมาก 
ต่อมาให้เดินไปที่วัดที่ติดริมแม่น้ำ .... ไปปล่อยปลา ปล่อนนก ปล่อยหอย 
(จำชื่อวัดไม่ได้ แต่มีแมวเยอะมากกกกกกกกกกก )
เสร็จก็ไปเดินเล่น ช๊อปปิ้ง ..... เสื้อผ้าสวย รองเท้างาม กระเป๋าเก๋ .... แต่ราคาถูก 

จากนั้นลงเรือ .... ไปลงนั่งเล่นที่ท่าพระอาทิตย์ 

ตอนเย็น บรรยากาศดีมาก ยิ่งถ้าไปวันอาทิตย์ จะมีวงดนตรีไทย (ย้ำว่าเป็นวงใหญ่จริงๆ ) มาบรรเลงให้ฟังฟรีๆ ที่สวนสาธารณะ (ไม่รู้ตอนนี้ยังมีอีกปะ) 
และก็จะมีเด็กน้อยเกรียนๆ มาซ้อมสเก็ตบอร์ด หรือเต้น cover เกาหลี ดังสนั่นอยู่ข้างๆ วงดนตรีไทย 

อืม บรรยากาศ ไม่เข้ากันเลย .....  แต่นั่งฟังไปเถอะ .... ซัก 30 นาทีจะเริ่มชิน 
ดนตรีไทยบรรเลง ผสมผสานดนตรีการเต้น Cover เกาหลีแรงๆ ..... 
หึหึ ศิลปะแปลกที่ยากจะเข้าใจ

แนะนำให้นั่งไปเรื่อยๆ ..... จนตะวันตกดิน อากาศจะดีมาก 

ที่ท่าพระอาทิตย์ จะมีต้นลำพูเก่าแก่ อยู่หนึ่งต้น 
(ตรงนี้ อดีตเป็นดงต้นลำพู เลยเป็นที่มาของคำว่า "บางลำพู") 
แล้วอินโทรเพลงคู่กรรม ก็ดังแว่วๆ หึหึ .... เจ๊อยากเป็นอังศุมาลิน  หยิ่งนัก พอสามีตายแระทำเป็นร้องไห้ ชิชิส์ เป็นหม้ายเลยเห็นปะ ????? เล่นตัวไปทำไม สมน้ำหน้า !!! 

จากนั้น .... ดินเนอร์ ..... มีร้านอาหารเยอะแยะ 
ทั้งราคาแพง จนถึง ถูกๆ แบบกะโหลกกะลา 

แต่ถ้าแบบสไตล์เจ๊ ....แนะนำ ร้านโรตี ข้าวหมกไก่ ท่าพระอาทิตย์ ถูกดี แต่อร่อยมาก
ภายในร้านเล็กเท่าซอกนมโรงเจ  นั่งสองคนแทบจะเต็มร้าน แถมเสียงดัง เจี๊ยว !! จ้าว !!! .... 
ร้านนี้อย่าหวังความโรแมนติก  .... กินๆ ไป อย่าบ่น .... 
ทริปนี้เป็นทริปแห่งความสนุก ไม่ใช่ทริปหรูหรา อิอิ
กินข้าวเสร็จ มีร้านเค้กใกล้ๆ บอกคำเดียว อร่อยเวอร์ แต่แอบแพง .... 

เดินไปเดินมา เหงื่อนจะท่วมร่าง อืมมมม .... เถื่อนได้กลิ่นอาย "จำเลยรัก" 
ทรหด อดทน ลากกัน ขึ้นบก ลงน้ำ ลงเรือ มันส์ดี 
จากนั้น ..... ไปนั่งต่อที่ท่าพระอาทิตย์นั่นแหละ จน 2  ทุ่ม .... ค่อยกลับ .... 
โปรแกรมเที่ยว เบาๆ  .... สนุก ลองดูสิรูปในเน็ต สวยดี

ปล. อย่าเอารถไปจะดีที่สุด ไม่มีที่จอดรถหรอก .... เพราะที่ธรรมศาสตร์เค้าก็ไม่ให้จอด 
จอดในวัดก็ไม่ได้ ไปฝากไว้ที่ปั๊ม ชั่วโมงละ 200 อืมมมมม ...... ชั้นว่ามันแพงนะ

แนะนำให้ถอดส้นสูง ถลกกระโปรง ใส่ยีน สวมรองเท้าแตะ และเดินลุยคะ ..... 

ทริปนี้วัดใจ .... ยิ่งถ้าต่อด้วย การเดินย้อนกลับไป นั่งเล่นที่สนามหลวงได้ ซัก 2 รอบ 
คอนเฟริ์มว่า .... สวดยอดคร้าาาาา ..... เจ๊ทำมาครบแล้ว อิอิ .... 

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลบ-ลืม-ล้าง


ตัดสินใจ ลบอะไรใน เฟสไปเยอะมาก .... เกือบจะ 50 % ทั้งเพื่อน ทั้ง like เลยทีเดียว ..... 

นึกๆ ก็เสียดาย .... เพราะพอมองกลับไปมันคือ ความทรงจำ ที่โก๊ะกัง ขังห่านเยอะแยะไปหมด 
ทั้งที่คนอื่นหลอกเรา และเราหลอกคนอื่น 

บางคนได้ยินอาจจะคิดว่า .... 
มันเป็นอดีตที่แหลกเหลว ยังมีหน้ามาตลกอีกเหรอ ไม่รู้จักสำนึก 
ถ้าเมื่อก่อน คงจะอาย กลัว ลนลาน รีบแก้ต่าง กับการกระทำ แล้วสัญญาว่าจะเป็นคนดี ไม่ทำอีก บลา บลา 

ชั้นไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่ง เป็นผู้ใหญ่ ฉลาด แค่เรียนรู้ที่จะ "มองทุกอย่างให้มันธรรมดา"

อาจารย์พงศ์พันธ์ เคยพูดว่า ..... 
อดีตที่ทำเราร้องไห้ เสียใจ พอหันกลับไปมอง มันอาจจะกลายเป็นเสียงหัวเราะก็ได้ !!!!! 
เอออ ช่ายยยย .... มันคือเรื่องจริง 

ชั้นไม่ปฏิเสธว่า ..... 
ตัวเองแรงขึ้น แรงมาก มากกว่าปีเก่าซะอีก 

เมือ 5 ปีที่แล้วออกแนว  
แรงแบบร้าย แรงแบบโกหก มุ่งงาน ไม่สนใจอะไร ไม่แคร์ ไม่เชื่อ มั่นใจ 

ซึ่งต่อมา หลังจากสลบไปหลายเดือน ก็เปลี่ยนเป็น .....
เงียบ ยอมทน ใครจะว่าอะไร ก็ทนๆ เหมือนจะเรียบร้อย นิสัยดี เป็นกุลสตรี  

แต่พอ 4-5 เดือนมานี้ ก็เปลี่ยนหน้ามือ เป็นหลังเท้า 
และเหมือนจะแรง มากกว่าเดิม อย่างไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดิน ..... 

คงเพราะ .... มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาอะไรทางสังคมมากมายเหมือนที่เคยหวาดวิตก ระแวง 
แค่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร 
และจริงๆ ให้ทำไรก็ทำได้ หรือพร้อมจะขอโทษ รักษามิตรภาพ เสมอ 

จนตอนนี้อายุมากขึ้น ผ่านเรื่องแรงๆ มาเกือบ 6-7-8 ปี  ..... 
ทุกอย่างมันสอนให้รู้ว่า ...... ชีวิตต้องมีทั้งอ่อนและแข็ง 
ถ้าเป็นการสั่งสอนจากผู้ใหญ่ทำไมชั้นต้องแข็งขืน ไม่รับฟังด้วยละ 

แต่ถ้าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ ทำร้ายกันหลายๆครั้ง ..... 
ชั้นก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนแอ ยอมให้โขกสับ เหมือนเรื่องนางทาสเช่นกัน 

ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐาน .... respect for each other 

ซึ่งแน่นอนว่า ..... เค้าสามารถทำร้ายชั้นได้ถึง 5 ครั้ง 
แบบชนิดที่ ชั้นจะนั่งโง่ๆ เอ่อๆ น้ำลายไหล ให้ทำร้ายโดยไม่ตอบโต้ ..... แต่เมื่อไหร่ที่เกิน 6 ครั้ง..... 
จงรับการกระทำทั้งหมดคืนไป  แล้วอย่าร้องไห้เด็ดขาด !!!
เพราะชั้นให้โอกาสถึง 5 ครั้งเพื่อหยุด .... แต่ถ้าไม่หยุด ก็ยินดีคะ ..... 

ชีวิต มันไม่ได้ มีแค่ ..... 
ไข่เค็ม ข้าวต้ม ขนมหวาน ต้นข้าว กระเป๋า ร้องเท้า ขาว แดง เหลือง 
ไม่ต้องร้อนรน หาความลับ เจ็ดยอดมงกุฏ  หรอก 

..... แม้ใครๆ จะพูดกันว่า .....
คงอีกหลายปี หลายเดือน หลายชาติ เพราะไม่ยอม Approved ให้แน่ๆ นิสัยแรงขนาดนี้ 
ถ้าเป็นปีที่แล้ว คงร้องไห้ เสียใจ ครางถืดถือ อ่อนแอ ทำไมนะ ทำไมเค้าไม่ยอมรับเรา แงแงแง เราทำผิดอะไรนะ บ้าบอ ตอแหลไป

แต่วันนี้ ....แม่จินดา พ่อชาติศักดิ์ เค้าแก่มากแล้ว
จนชั้นแทบจะไม่สนใจ ใบ Approved ใดๆ 

เค้าเดินไม่ไหว ทำกับข้าวมือสั่น .... แต่พอเราจะขยับตัวทำอะไร 
ก็เหมือนต้องมีคนเสียประโยชน์ ได้ประโยชน์ เครียดจริตเสียกันไปหมด จนน่ารำคาญ

ชั้นไม่สงสารตัวเองอีกแล้ว ..... ชั้นสงสารพ่อแม่ ที่แก่ลงมากกว่า

ไม่ต้อง Approved ให้หรอก ..... 
ไม่ใช่ท้าทาย แต่มันสายไปแล้วจริงๆ ..... 


ให้อยู่ในสถานะนี้ อีก 10-20-40 ปี .... ชั้นก็ไม่มีปัญหาหรอก


วันหนึ่งคุณจะเข้าใจเอง..... คำว่า "สาย" มันแปลว่าอะไร 


วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อัพเบาๆ .... ของความสัมพันธ์



วันก่อนดูเรื่อง salt ..... ขอเรียกสั้นๆละกันว่า .... น้องเกลือมหาประลัย
เรื่องนี้ แอบผิดหวังหน่อย ๆ เพราะเป็นแฟนพันธ์แท้ เจ๊แองจี้ม๊าก 
ตั้งแต่ ทูมไรเดอร์ Needed ..... เจ๊แองจี้เล่นได้ ดุ เดือด เถื่อน ทมิฬ ทุกเรื่อง 

เรื่องนี้ ..... น้องเกลือออกแนวพารานอยด์ไปหน่อย ดูแล้ว งงๆ ..... 
เหมือน น้องเกลือจะห่วงสามีมากไปนิดส์  ทั้งๆ ที่ สามี she ออกจะดูลึกลับ ชวนให้หวาดกลัวมากกว่า 
ดูไม่ทันจบ .... เลยไม่รู้ว่า ตกลง น้องเกลือเป็นสายลับรัสเซียไหม ? กลับเกิดอาการจิตตกซะเอง ..... เออ กลัวกินเกลือ แล้วต้องไปอยู่รัสเซียรึเปล่า 

หยึส์ ..... แอบรำคาญ ระบบจิตวิทยา และ ตรรกศาสตร์ในสมองตัวเอง คิดไปได้ 

เมื่อวาน .... อัพเรื่อง .... ความสัมพันธ์ว่า คนเรารอบๆ ตัว มักจะต้องเจอกับคน 3 ประเภท
  1. รักและห่วงเรา 
  2. คนที่เฉยๆกับเรา 
  3. และคนที่เกลียด สมน้ำหน้าเรา 
แต่ .... แต่ .... แต่ .....แต่ วันนี้จะนำเสนอ ความสัมพันธ์ขั้นสุดที่ อธิบายลำบากมาก คือ 

คนที่ ....... ทั้ง-รัก-ทั้ง-เกลียด-เรา  ?????


  • ถ้ามีคนมารัก เราก็รู้สึกดี ไม่แปลก ชอบ 
  • และใครที่เฉยๆ กับเรา ก็ดี .... ไม่มีปัญหา อยู่กันได้ ทำงานกันได้
  • ส่วน .... คนที่เกลียดเรา อันนี้ สบาย !!!! ร้ายมาก็ร้ายตอบ ตบมา ก็ตบกลับ ชิลๆ ไม่เคยกลัว ไม่เคยท้อแท้ 

แต่จะมีคนจำพวกหนึ่งที่ ชั้นกลัวมาก และวางตัวไม่ถูกเลย เวลาต้องเจอสถานะการณ์คือ 
คนที่ทั้งรัก ทั้งเกลียดเรา ..... อืมมมมมมมมมมมม ...... งานเข้า     

มนุษย์ทุกคน ..... ต้องเคยเจอ เชื่อสิ 
เพราะเค้าจะเป็นลักษณะที่ .... 
  • เวลารัก .... เค้าก็รักเรามาก 
  • แต่เวลาเกลียด อืมมมมม .... ก็ไม่ต้องบรรยาย (เรียกว่า แทบอยากจะถลกหนังหัวเราเลยทีเดียว)

ชั้นเป็นคนที่ยืนบนพื้นฐานของ ความเฉยๆ จนแทบจะเป็นเย็นชา 
คือไม่รักมากมาย ชิลๆ น้อยๆ แต่นานๆ มั่นคง และก็ไม่ได้เกลียดฝังแหนบ กับใคร .... 

เลยไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ ทั้งรัก-ทั้งเกลียด เท่าไหร่ 
รู้แต่ว่า ..... มันต้องเกิดจากปัจจัยที่สุดโต่ง คือ ..... รักมากสุดๆ แต่โดนทำเจ็บกระอักเลือด 
จนทำให้มีความรู้สึกนี้ได้ 

แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ???????? 
ไม่รู้ ????? อันนี้ไม่รู้จริงๆ 

สงสัยต้องถาม นักจิตวิทยา ..... 

ใครรู้คำตอบ ช่วยบอกด้วยนะ ...... 
เพราะด้วยวัยวุฒิแค่นี้ คุณวุฒิแค่นี้ .....
มองไม่ออกจริงๆ ว่าถ้าเจอคนที่ ..... ทั้ง-รัก-ทั้ง-เกลียด  .....เราควรทำตัวอย่างไร ..... 


.... ช่วยแชร์คำตอบก็ดีนะ ..... จุบุ จุบุ ไปดีก่าาาาาาา

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การสื่อสาร ของเจ๊


จริงๆ .... เมื่อก่อน ถ้าจำไม่ผิด คลื่นวิทยุ cool 93 ไม่มีดีเจนะ อืมเพิ่งนึกออกวันนี้นี่แหละ ..... 
  • เข้ากทม ใหม่ๆ เด็กๆ .... เราจะฟัง Hot wave ช่วงพี่โป้ง ตอนตี 2 ชอบมาก 
  • จากนั้นก็จะมาฟัง Virgin Hit 
  • จากนั้นก็เริ่มติดคลื่น A-time .... รู้จักโอปอล พี่เชา ก็เพราะคลื่นนี้ 
  • สุดท้าย ..... ทำงาน ตจว. บ่อย .... 
  • เลยมาฟัง cool 93  เพราะเป็นคลื่นเดียว ที่ใช้มือถือต่อเน็ต ก็ connect เพลงมาฟังได้ 
ไม่ได้เรื่องมาก ..... แค่จะบอกว่า 
ไม่เป็นไรหรอกนะ ถ้าคลื่นนี้จะไม่มีดีเจมาจัดรายการบางช่วง
เปิดเพลงอย่างเดียวก็ได้ ..... ไม่ว่าหรอก ..... ไม่ซีเรียส 
กลัวว่าคนอื่น จะเกิดอารมณ์ อึดอัด เครียด ทำงานกันไม่มีฟามสุข (อันนี้คิดเอาเอง)..... 

ชั้นไม่ได้เป็นโรครำคาญ 
แค่รู้สึกว่า ถ้าใครต้อง มารอเรา  มาเสียเวลาเพราะเรา 
มาเหนื่อยกับเรามากเกินไป ...... รู้สึกเกรงใจ 

ตอนเรียนมหาลัย ..... แก๊งค์มี 8 คน ..... เน เปิ้ล หญิง กร บี แตง แต้ และชั้น 
ทุกเช้าเราสามคน ชั้น-แตงกวา-บี จะแต่งตัวเสร็จตั้งแต่ 7.30 (หอหญิงห้องน้ำรวม เราแหกตาตื่นมา fight กับห้องอื่นสุดฤทธิ์ ตาลีตาลาน กลัวแย่งห้องน้ำไม่ทัน ) ..... แต่เอาจริงๆ กว่าจะได้ไปเรียน ก็เกือบ 9 โมงทุกวัน สายจนอาจารย์ล๊อกห้องเสมอ

ทั้งๆที่ บางคนบอกว่า .... ไม่ต้องรอ (กุไม่รีบ)
แต่ด้วยความเป็นเพื่อน ..... เราก็นั่งรอมันทุกวันจนครบ 2 ปี 

อาการแบบนี้ขอนิยามว่าเป็น Paradox 

คือ .... กรุก็ไม่อยาก รอหรอก .... แต่เพราะเป็นเพื่อนก็เลยรอ !!!! 
ส่วนเพื่อนก็ไม่อยากให้เรารอ เพราะมันอยากทำไรช้าๆ เนิบๆ ทาครีมไป แต่งหน้า ทาปาก กันคิ้ว หมักโคลน เรื่อยเปื่อย ตามประสาผู้หญิงสวยๆ   .... แต่พอเห็นเรานั่งรอ ..... มันก็เลยต้องรีบ ลนลาน กระวีกระวาด ตามใจเรา  

เหมือนอาการตอนนี้นั่นแหละ ....... 

ถ้าเราพูดว่า .... "ไม่ต้องรอหรอก ไม่เป็นไร ไปนอนกันเถอะ"
ล้านเปอร์เซ็นต์เลย ว่าคนฟังต้องโกรธ !!!!!!!!!!!!! 
และแม้ว่าจะโกรธ ..... แต่สุดท้าย  .....  
เค้าก็ยังรอเราที่เดิมทุกวันนั่นแหละ (พนันกันไหมอะ ?)

paradox นี้ไม่มีสมการแก้หรอก 

จะไปบังคับเพื่อน ไม่ให้ห่วง ..... ก็ไม่ได้ 
จะเปลี่ยนแปลงให้ตัวเราเอง นอนตรงเวลา มีชีวิตเป็นระบบ ระเบียบก็ยากส์ (คนมันอาร์ทตัวแม่ไปแร้ว) 

สมัยเรียนมหาลัย .... เคยถึงขนาดที่ เราตะโกนใส่กันอย่างดุเดือด โมโห กับเรื่องๆ นี้.... เช่น 
  • ทำไมไม่รีบบ้าง ปรับปรุงตัวนะรู้จักไหม !!!  ... เพื่อนไปเรียนสายโว้ย
  • แล้วมันก็ย้อนอย่างเจ็บแสบว่า ..... "ใครใช้ให้เมริงรอ ??? "
จำไม่ได้เหมือนกัน วันนั้นเราแก้ปัญหากันยังไง 

แต่ภาพสุดท้าย 
พวกเราก็นั่งรอกันแบบนั้น ทุกวัน ทุกวัน ......... 
ไม่รู้จะเรียกว่า ความรัก ความผูกพันธ์ หรือหน้าที่ ....... 
แต่ที่รู้ๆ กลุ่มเราไม่เคยแตกจากกันเลย ..... จนกระทั่งแยกไปเรียนตามภาควิชา 
ทั้งๆ ที่กลุ่มอื่นแตกกันตั้งแต่เทอมแรกๆ 

เราไม่รู้หรอกว่า ..... ถ้าอยู่ด้วยกันเป็น สิบๆ ปี เพื่อนมันจะพัฒนา เร่งสปีดขึ้นหรือไม่ 
แต่ที่รู้ๆ ........ เราก็คงรอมันไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังเป็นเพื่อนกัน 

อะนะ ..... จบดีกว่า ..... 

แต่บอกตามตรง ..... พอมีคนอื่นมารอเราบ้าง รู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้อะ 
เข้าใจอารมณ์ของเพื่อนมันแล้วอะ ..... 

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สอบ อบจ. "การเข้าถึงบริการ การรักษา"


อ่านข้อสอบ ยิ่งเหนื่อยใจ (งง เป็นส่วนใหญ่) ยิ่งเห็นระยะเวลา ยิ่งท้อแท้ 

  • สอบ มีนาคม 
  • ประกาศผล เมษายน
  • ขึ้นทะเบียนรอไปเรื่อยๆ .....
  • สุดท้าย ..... จะได้ทำงานคือ เดือน พฤศจิกายน ถ้าสอบติด 
  • นั่นแปลว่า ชีวิต จะต้องอยู่ วนไป เวียนมา แบบนี้ ..... จนถึงเดือน พฤศจิกายน สิ้นปี เลยทีเดียว 


นั่งอ่านเรื่อง ..... การเข้าถึงระบบการรักษา จากภาครัฐ 
รัฐบาลมี การรักษาฟรี พอสมควร เอาเป็นว่า สรุปดังนี้ 

  1. ถ้าเป็นราชการ ..... สิทธิรักษาฟรี ครอบคลุม พ่อ แม่ ลูก และคู่สมรส
  2. ถ้าเป็นพนักงานราชการ ..... มีประกันสังคม และบางทีได้ประกันชีวิต
  3. ถ้าเป็นรัฐวิสาหกิจ ....... สิทธิเช่นเดียวกับราชการ 
  4. ประชาชนทั่วไป ในเมือง ...... สิทธิบัตรเงิน บัตรทอง 
  5. และสุดท้าย ...... 30 บาท รักษาทุกโรค 

เราเคยนั่งคุยกันเล่นๆ กับแผนกจัดซื้อ และเภสัชห้องยาโรงพยาบาล .....เค้าเมาท์กันว่า ..... 

  • แรกๆ นโยบาย 30 บาท ทำเอาระบบโรงพยาบาลแทบจะกรี๊ด หวี๊ดสลบ
  • เพราะทำให้หมอในโรงพยาบาลใหญ่ ต้องทำงานเยี่ยงทาส 
  • วันหนึ่งต้องตรวจเคสไม่ต่ำกว่า 100-200 
  • หมอเกิดอาการเซ็ง ลาออกไปอยู่เอกชนเป็นแถวๆ  
  • และที่ทนอยู่ก็เป็น GP 
  • ปัญหาขาดหมอเฉพาะทาง จึงบังเกิด
  • รวมทั้งปัญหายา Original ของแท้  และยาก๊อปปี้ ด้วย...... 

นึกไปก็นั่งยิ้มทุกที ตอนนั้นพวก OTC ร้านยา กลับกระชากบัญชี เอายาก๊อปปี้ขึ้นโรงพยาบาลศูนย์ได้อย่างเบิกบาน ..... ทำกำไรมหาศาล ..... ส่วนบริษัทใหญ่จากอเมริกา เยอรมันนี ญี่ปุ่น ได้แต่มองตาปริบๆ ..... เปิดซองประมูล ก็มีแต่ แพ้ แพ้ แพ้ แพ้ และ แพ้ ...... ราคาดักแด้ สู้ยาก๊อบไม่ได้

เพราะถ้าผู้อำนวยการสั่งแต่ ยาดี ยาแพง แล้วเกิดขาดทุนย่อยยับ ...... 
ก็เตรียมเก็บกระเป๋า บอกลา หาซองขาวได้เลย .... โดนไล่ออกแน่ๆ โทษฐานทำให้องค์กรล้มละลาย

นี่แหละกำแพงบางๆ ระหว่างคำว่า "วิชาการ" และ "ธุรกิจ" 

ปัจจุบัน .... มั่นใจว่าปัญหานี้หมดไปแล้วมั้ง ...... เพราะ อย. ลงมาแก้เองกับมือ 
 ..... ประชาชนก็เข้าถึงการบริการ ทั่วถึง ครบครัน บันเทิง ..... 
30 บาทรักษาได้ทุกโรคจริงๆ จบ Happy Ending 


ว่ากันว่า ตลาดของยา เคมีภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ เป็นธุรกิจที่อธิบายยากมาก 
เพราะมันมีเรื่องของ ..... การผลิต สูตรโครงสร้าง ความชำนาญ โรงงาน มาตรฐาน การวิจัย clinical trial ความเชื่อมั่น
ยิ่งถ้าบางแห่ง ที่มีการคานอำนาจกันอย่างชัดเจนระหว่าง เภสัชกรและกลุ่มแพทย์ผู้เขียนใบสั่งยา 
แปลว่า ..... สงครามล้างเผ่าพันธ์กำลังจะเกิด !!!!! ..... 

...... อะนะ เนี้ยะแหละ  ....... โลกของสาธารณสุข 

ปัญหาที่กล่าวมานี่แค่เรื่อง .....การรักษาและบริการเท่านั้นนะ ที่ระบุว่าประชาชน ต้องได้รับสิทธิการรักษาอย่างเท่าเทียมกัน ตามกฎหมาย

ยังไม่ได้พูดถึง (การส่งเสริม การสร้างเสริม สุขภาพ เช่น)
  • น้ำสะอาด 
  • อากาศบริสุทธิ์ 
  • อาหารที่มีประโยชน์ 
  • ไฟฟ้า ประปา สาธารณูปโภค ฝุ่น ควัน ถนน เสียง 
  • พฤติกรรมด้านสุขภาพ ..... 
  • การป้องกัน กักกันโรค คุมกำเนิด คุณภาพชีวิต 

และข้อกำหนดอีกมากมายหลายหลากจาก องค์การอนามัยโลก และยูนิเซฟ  WHO,UN  ที่บอกว่าประชาชนควรจะได้อยู่อาศัยในสภาวะแวดล้อมที่ดี มีครบ ทั้ง กาย จิต ชีวิต ไปจนถึง วิญญาณ ...... 


อ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งเหนื่อย ...... แปลงร่างเป็นลำยองต่อดีกว่า 

นี่ถ้าสอบติดแล้วได้ทำงาน ..... คงจะ สนุก มันส์ เซิ้งไห กันกระเจิง เริงรื่นแน่ๆ  ..... เพราะแทบจะจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ 

..... เวรกรรม จบมาได้ไงเนี้ยะ ????? 





วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความเจ็บ และ ความปวด


เอาละ .... ตอนที่เรียน physio ก็ได้เกรดมาอย่างทุเรศทุรัง .....

แต่ถ้าจำไม่ผิด ..... เค้านิยามความปวดไว้หลายกรณี 
มันต้องเริ่มจากเจ็บ แล้วเกิด reflect ป้องกัน ถอยหนี ต่อสู้ .....จากนั้นก็จะเป็นความปวด 

เมื่อวาน.....ปวดหน้าอก .... แต่ไม่มีอาการเจ็บ 

และถ้าปวด ต้องเกิดจากเนื้อเยื้อโดนทำลาย .... 
แต่นี่ก็ไม่เลยเจ็บขึ้นมาเฉยๆ

ซึ่งเอาจริงๆ ..... เมื่อวานปวดมากนะ ปวดร้าวไปที่กระดูกต้นคอ หน้าอก เจ็บหลัง เกร็งไปที่ต้นแขน ...... พร้อมกับอาการ เส้นเลือดกระตุกแถวต้นขา .... แหม หยั่งกะมีคนทำบอลลูนให้  ..... 


ปวดจนน้ำตาไหล ..... 


ตอนนี้ ชั้นแค่รู้สึกว่า ...... อาการเจ็บแค่นี้ 
ไม่น่าจะปวดถึงกับ .... ต้องร้องไห้จนตัวงอ ครางสะอื้น 
มันเป็นความรู้สึกที่ ...... "มากเกินไปรึเปล่า" 

สงสัยว่า...... กำลังมีอาการ "psycho-pain" หรือไม่ 


ชั้นไม่มีความรู้ด้าน จิตวิทยาคลีนิค 

เรียนเฉพาะจิตวิทยาสังคม พัฒนาการ การบริหาร แรงจูงใจ พฤติกรรม  Negotiations , ....... และที่สำคัญ ชั้นไม่สนใจ disorder case หรอก ..... ชอบงานวิจัยของคนปกติมากกว่าอาการเจ็บป่วย

แต่ลึกๆ ก็...รู้ดีว่า psycho-pain มันมีน่ากลัวมากกว่า และแก้ยาก 

จะการเกิดอาการแบบนี้ได้ชีวิตต้อง trauma พอสมควร 

ดังนั้น พอเกิดอะไรเล็กๆ น้อยๆ 

ระบบก็จะสั่งการ ให้ตอบสนองที่มากเกินกว่าเหตุ
เรียกว่าไม่ได้มีอะไรโหดร้ายมากมาย แต่เตือนภัยให้สั่นสะเทือนได้ทั้งอำเภอ

มันไม่ใช่การเสแสร้ง ..... เพราะแม้คนไข้จะแสดงบทบาทเก่งอย่างไร 

แต่อาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่องอก ร้าวไปที่ซี่โครง หรืออาการเจ็บจน ริมฝีปากสั่น ..... ไม่ได้แสดงง่ายขนาดนั้น (ต่อให้จบนิเทศศาสตร์ Acting code จาก Hollywood ก็เถอะ) 

สุดท้าย .... คนไข้จะตอบสนองในระดับเดียวกันหมด  คือ
ตื่นตระหนก อกสั่น ขวัญผวา ไม่ว่าจะ ปวดน้อย หรือปวดมาก
และมันจะรักษายาก ..... จนน่ารำคาญ !!!!!!!!

ไม่มีใครอยากป่วย ..... อโรคา ปรมลาภา 
และไม่มีความจำเป็นอะไร ที่จะต้องสร้างเรื่อง หรือ พยายามทำให้ตัวเองป่วย เพื่อคะแนนความสงสาร  

ในเมื่ออนาคตยังมีสิ่งดีๆ อีกมากมาย รออยู่ .... ไม่ว่าจะเป็น เรียนพันธุศาสตร์ หาสามีที่ขำๆ เบาๆ เข้ากะเราได้ มีลูก Adoptions เลี้ยงแมว เปิดร้านนม เที่ยวอียิปต์ ...... 

และที่สำคัญ ชั้นไม่ต้องการจะครองโลก ไม่คิดจะเด่นดัง อลังการ เฉิดฉาย กรีดกราย มากกว่าคนอื่น..... ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิต ไปผูกติดกับความเจ็บปวด จนต้องมีอาการ psycho-disorders หรอก มันไม่คุ้มเลยแม้แต่นิดเดียว

ต่อไป .... จะปรับ threshold ให้ต่ำ 

ปล. เคยโดนรถชน ยับชนิด ปากแตก ชนคอนโซล เลือดไหลซิบ หรือ 
ขี่มอร์ไซค์ล้มฟาดกับถนน จนต้องนอนนิ่งๆ ในห้องเกือบ 3 วัน ฉี่เป็นเลือด  ยังไม่ร้องเลย ...... 
ถ้าไม่เจ็บปวด ถึงขั้นนั้น ..... จะหุบปากให้สนิท 



ไม่ดีหรอก ..... ที่จะมีอาการทางจิต ถ้าเรายังคิดอยากมีลูก แม้จะขอมาเลี้ยงก็เถอะ

เข้มแข็งคะ ต้องเข้มแข็ง ท่องไว้


วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความรัก และ หนังสือ




ให้ความรักเป็นหนังสือ เพียงแค่เธอค่อยๆอ่าน ..... ค้นหาใจของเธอ 

เมื่อคืน คุยกะพี่หมอ Algeria 
ทั้งๆที่ สัญชาตญาณ บอกอย่างชัดเจน ไม่ต้องไปหาไหนไกล 
เพราะคนที่รักเราจริงๆ อาจจะรอเราแถวนี้ก็ได้ ..... ทำไม ต้องเพ้อเจ้อ ละเมอไกล ถึงทวีปแอฟริกา 

เมื่อคืนพี่หมอบอกว่า ...... ออกไปใช้ชีวิต ข้างนอกบ้างนะบัว อย่าอยู่แต่ในห้อง 
คงกลัวเรื่องสุขภาพจิต (พี่หมอหารู้ไหม ยิ่งเจ๊เงียบ จิตจะยิ่งแข็งกล้า !!!)   
เค้าพยายาม บอกให้เราทำงานบ้าน อืม ..... คนปกติ เค้าก็ต้องทำงานเนอะ ใครใช้ชีวิตแบบชั้น ก็คงขำอะ งานนอกบ้านก็ไม่ทำ งานในบ้านก็ไม่หยิบ ไม่จับ .....  อันนี้ถือว่าดีแล้ว และสมควรที่ผู้ชายจะ ว่ากล่าว ตักเตือน 

มาที่เรื่อง Cooking and Making Cake หึหึ 
อันนี้แหละหนัก หนัก บอกเลยว่า หนักหนา ..... 

เพราะหน้าตาแบบชั้น ดูเป็นแม่บ้านมากเหรอ ?

.... กับข้าวที่ทำได้ คือ "กินคนเดียว" .... อายและไม่กล้าชวนคนอื่นมากินด้วย  ต้ม ผัด แกง ทอด ชนิดไม่ควรถวายพระ !!!! บาป เนื่องจากรสชาติแย่
แล้วระดับ Making Cake นี่คงต้องอาศัยเวทย์มนต์ กันละมั้ง

อยากมีแฟน DOCTOR เราก็ควรจะเรียนรู้ operations with cakes 
เช่น กินเค้ก อบเค้ก ซื้อเค้ก ขายเค้ก บริโภคเค้ก ...... 
ประมาณนั้น ทำกับข้าว บลา บลา บลา บลาๆ

ชั้นเริ่มปลง ...... ทำไปบ้าง เท่าที่ควรจะทำ ตามความจริงใจ ที่เคยบอก เคยสัญญา

แล้วเพลงของกะลา ก็ดังมาผกผัน .... ปลอบใจตัวเอง

ให้ความรักเป็นหนังสือ เพียงแค่เธอค่อยๆ อ่าน ค้นหาใจของเธอ 


วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สไปร์ท กะ วัยชรา


มีคนถามชั้นว่า ..... ทำไมชอบกินสไปร์ท 
คำตอบคือ .... เพราะ สไปร์ท ไม่มีสี 

จริงๆ เครื่องดื่มก็เหมือนความรัก ...... ในท้องตลาด มีเป็นร้อยชนิดให้คุณเลือก 
ชั้นไม่ชอบกินน้ำสีแดง ..... เพราะน้ำแดง เอาไว้ถวายนางกวัก 
ชั้นไม่ชอบกินน้ำสีเขียว .... เพราะกินแล้วลิ้นจะเขียว (นึกภาพผนังกระเพาะเป็นสีเขียวแล้วสยอง)
ส่วน น้ำสีอื่นๆ กินบ้างแล้วแต่อารมณ์ 

ชั้นไม่เคยชอบกินชาเย็น ..... ใครเลือกชาเย็นให้ป้า ตอบตรงๆ ว่า พลาดมาก !!!! (ต่อให้เป็นเรื่องเจ้าชายชาเย็น เจ้าหญิงเข็นครก ก็ไม่คิดจะชอบชาเย็น)

นมเย็น หรือ กาแฟมากกว่า ที่เลือกกิน 
เหตุผลของการกินกาแฟ จะเป็นกรณีเดียว คือ ทำงานนอกบ้าน ....
กินอยู่ 2 แบบเท่านั้น  .... คือ มอคค่า คาปูชิโน่ หรือ เนสกาแฟธรรมดาก็พอ

ชั้นไม่กินชาเขียว ทุกชนิด ..... 
ชั้นไม่กินน้ำสมุนไพร (น้ำกระทกรก รากหนวดแมว เหง้าบัวเผื่อน ไม่ได้กล้ำกลายลำคอชั้นหรอก) 
ชั้นไม่ชอบกินเบียร์
ชั้นไม่ชอบกินเหล้า .... แต่ถ้าให้กินเบาๆ ก็โอเค 

..... เครื่องดื่มก็เหมือนความรัก ...... 
เราเลือกไป ไม่ใช่เพราะมันดีที่สุด 
เราเลือก เพราะเหตุผล คือ ชอบ ..... ไม่ได้คาดหวังอะไร 

สไปร์ทก็เหมือนกัน ..... เห็นขวดเขียวๆ แต่จริงๆ ข้างใน ใสกริบ ไม่มีสีใดๆ เลย 
และนั่นแหละ คือเหตุผลให้ชั้นหลงเสน่ห์น้ำใสๆ ยี่ห้อนี้ 

มันก็เหมือนความรัก
ถ้าคาดหวังให้มัน มีสีสัน หวานมัน เข้มข้น ก็คงเลือก น้ำส้ม น้ำแดง ชาเย็น ไปแล้ว

ชั้นรู้ว่าลึกๆ ไม่ควรเลือก สไปร์ท 
ควรจะ ลด ละ เลิก และบอกลา สไปร์ทเสีย 
แต่จะเลิกได้ไงอะ ..... ชอบกินมา ตั้งแต่เด็กสมัยประถม 
จะให้มาเลิกตอนเนี้ยะ .... ไม่ไหวหรอก 
และมันเป็นอีกหนึ่งเมนูความลับ ..... สไปร์ท ใส่เกลือ แก้หงุดหงิดได้ดีมากๆ ทุกคนควรลอง

..... ชั้นรู้ดีเสมอว่า บางช่วงของชีวิต มันน่าเบื่อ ชวนง่วงนอน ไม่น่าตื่นเต้น แบบ เหล้าเร้ด คอกเทล หรือ ยาดอง เหล้าโรง

แต่ก็เนี้ยะแหละ ..... 
ชีวิตชั้น ..... ชีวิตแบบน้ำหวานโซดา เรื่อยๆ ซ่าๆ 

ปล. เอาสไปร์ท ทำมิกเซอร์ จะได้เหล้าที่รสชาติเถื่อนมาก ไม่ไหวจริงๆ 
ปล. 2 เซเว่นอัพ กะ big cola สีเขียว จะมีกลิ่นมะนาว ....    

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Respect yr-self บทความ 30 +


วันนี้ พยายามหาหนูตายในบ้านให้เจอ .... มันซ่อนอยู่ตรงไหนนะ นั่งคิดในใจ นี่ถ้าสมมุติ มีใครฆาตกรรม แล้วเอาศพมาซ่อนไว้ในบ้านชั้น .... ตูจะโดนจับคนแรกแน่ เพราะหาต้นตอปัญหาไม่เจอ ..... แอบเบื่อตัวเอง 


เมื่อคืน นั่งดูหนังเรื่องหนึ่ง What is your number ?  
แหมขอบอกว่า หนังอาราย เถื่อนได้ใจเหลือเกิน น่าจะกำหนด Rate อายุ 30+ เอาไว้ยิ่งนัก ..... หนังเรื่องนี้ ใน IMDb ได้แค่ 3 ดาว แปลว่า ไม่ได้ตื่นเต้น สนุก  เหมือนเคย ...เพียงแต่ชั้นรู้สึก .... ว่าหนังเรื่องนี้ น่าคิด ในบางมุมเล็กๆ



เรื่องนี้ ..... เปิดประเด็น งานวิจัย ที่กล่าวว่า ผู้หญิงในอเมริกาส่วนใหญ่ ก่อนแต่งงาน จะมีคู่นอนโดยเฉลี่ยประมาณ 10 คน  .... (เอออ ตกใจ ... จริงปะเนี้ยะ .... ชั้นไม่ผ่านค่าเฉลี่ยเลยนะนั่น  หึหึ ก็นี่มันประเทศไทย ใครผ่านผู้ชายมามากกว่า 10 คงขำละคะ .... อะไรจะโชกโชนเยี่ยงนั้น ) 

พอทีนี้ ..... นางเอกมีจำนวนตัวเลข 20 !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
แอบตะลึงอีกรอบ .... นางเอก เก็บแต้มเยอะไปไหม ???????????????????  

และนางก็เริ่มเพ้อเจ้อ เนื่องจากเห็นน้องสาวแต่งงาน 
เลยคิดจะจ้างพระเอกหา แฟนเก่าทั้ง 20 คนของนาง เผื่อ She จะได้แต่งบ้าง
ตอนแรกที่ดู .... จะปิด และเลิกดูหลายรอบแระ มันแปลกๆ ไม่เข้าใจวิธีคิดของนางเอกแบบนี้ .... 
แต่พอดี พระเอกคือ คริส อีแวน (ย้ำว่า คริส อีแวน !!!! ) พระเอกจากเรื่อง กัปตันอเมริกา ที่มีดวงตาใสวิ้ง ดังกรูปรีหนุ่ม เลยทำให้อดทนดูต่อไป เพราะขี้เกียจเปลี่ยน

มาสะดุดตอนที่ พระเอกด่านางเอกว่า 

การนอนกับคนอื่นเยอะๆ ง่ายๆ ทำให้คุณ หมดความนับถือในตัวเอง !!!!!!!!!!!!!

ใช่ นั่นแหละประเด็น .... 
นั่งดูเรื่องนี้ เกิดคำถามตลอด นางเอกเป็นไรวะ 
ทำไมต้องวุ่นวายขนาดนั้นด้วย (นางเป็นบ้าปะวะ) .... 

ปกติคนอื่นอาจจะไม่ค่อย Respect ในตัวชั้นเท่าไหร่ อันนั้นเข้าใจ ไม่แปลก.... นั่นเพราะเหตุผล จาก การวางตัว คำพูด บุคลิกภาพ extrovert , introvert ..... ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินว่า เราน่าเคารพ นับถือแค่ไหน 

แต่ การนับถือตัวเอง (Respect in our-self) เกิดจาก "ตัวเราเท่านั้น" ... 
เพราะปกติ เราจะรู้ดีเสมอว่า การกระทำไหนของเรา ไม่น่าเคารพ อันไหน น่าภาคภูมิใจ .... เมื่อบวกลบคูณหาร  .... เราจะตอบได้ว่า .... ควรนับถือตัวเองระดับไหน

นางเอกเรื่องนี้ ไม่นับถือตัวเองเลย 
และที่สำคัญ ..... นางทำร้ายจิตใจพระเอกอย่างโหดร้ายด้วย 
ทั้งๆ ที่ พระเอกนับถือในตัวเธอใจจะขาด แม้เธอจะไม่ใช่คน Perfect 

พระเอกพูดว่า .... ผมหยุด ตั้งแต่เจอคุณ (อิพระเอกก็แอบเปรี้ยว เกือบ 300 คนอะที่เคยตีหม้อ * ตะลึงกะความเถื่อนเรื่องนี้จริงเชียว )
แต่นางเอก บอกว่า พระเอก ไม่ดีพอ ไม่รวย ไม่ใช่คนที่มั่นคง เลยไม่เอา ไม่อยากคบ

ชั้นแอบยิ้ม ...... แหมมมมมมมมมมมมมมมม !!!!!!!!!!!!
พระเอกช่วยตามหาสามีเก่า 20 คนของนาง 
แถมยังนั่งรองรับอารมณ์ทุกครั้ง ที่ she ผิดหวังจากปั๋วเก่าทั้งหลาย 
(แบบนี้ ยังไม่เรียกว่าดีอีกเหรอวะ ???)

ชั้นยังมั่นใจว่า ...... คนที่รับได้ทุก Factors ความหวั่นไหว เวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อ ในตัวเรา คนนั้นแหละ ดีที่สุด ...... ไม่ต้องไปหาไกลหรอก เพราะจริงๆ คนแบบนี้ อยู่ใกล้เรานั่นแหละ 
นึกถึงพ่อแม่เราสิ ..... ผู้ชายคนไหนทำได้ระดับนั้น .... รีบตะครุบไว้ ต่อให้จน กินเกลือ คลุกแกลบ แต่เค้าจะไม่ทำเราผิดหวังแน่นอน !!!!! เจ๊คอนเฟริ์ม

เอาเป็นว่า .... ลองไปดูนะ .... rate 30+ (อายุ 30 )
บทโป๊ เปลือย เยอะ ไปหน่อย ไม่แนะนำให้สาวๆ ดู 

ปล. ได้เห็น ง่ามขา ขาวอวบ ของกัปตัน อเมริกาด้วย เลือดกำเดาแทบพุ่ง !!!!! 
บร๊ะเจ้าาาา คริส อีแวน ของเจ๊ พัฒนามา ล่อ เก้ง กวาง บ่าง ละอง กันทีเดียว ..... 

อะ รูปตัวอย่าง ..... ใจไม่แข็งอย่าดู ..... 
กัปตันอเมริกาของช้านนนนนนนนนนนนน 



วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ใครจะเอากระพรวน .... ไปแขวนคอแมว


ทุกครั้งที่ชั้นเห็นรูปแมว มีกระดิ่ง กระพรวน ห้อยคอ .....
มักรู้สึกหงุดหงิดทุกที ..... เอากระพรวนไปแขวนคอมัน .... มันจะอยู่ยังไงอะ ?

ชั้นเป็นคนชอบแมวมาก ชอบเลี้ยงแมว เห็นแมวแล้วเหมือนหลงเสน่ห์ 
มีเพื่อนบางคนบอกว่า .... เค้าไม่ชอบแมวมากๆ เพราะ 

  • แมวเลี้ยงไม่เชื่อง 
  • แมวไม่เชื่อฟัง เจ้าของ 
  • แมวชอบข่วน ชอบตะปบ 
  • แมวน่ากลัวเวลากลางคืน  
  • แมวชอบทะเลาะกับ Bat Man (Cat Women) อะนะ อันนี้นอกเรื่อง 
ตอนเด็กๆ แม่เอาหมามาให้เลี้ยง 2 ตัวที่จำได้ดี คือ 
หนุงหนิง กะ แพนด้า ..... 
หมาสองตัวนี้ก็น่ารักนะ นิสัยดี ร่าเริง กระดิกหู หางทุกครั้งที่เราเล่นด้วย ..... แต่ชั้นรู้สึกว่า หมา ตายเร็ว ตายง่าย ตายเพราะความซื่อที่หมามี บ่อยๆ 
พอเปิดประตูทิ้งไว้ หมาจะรีบวิ่งออกนอกบ้านเพื่อไปหาเจ้าของ อย่างร้อนรน ดีใจ แต่กลับกลายเป็นว่า มันวิ่งตัดถนน รถชนตายสนิท ร้องไห้อยู่ หลายวันทีเดียว ...... 
ถ้าคุณมีประสบการณ์ ที่ต้องอุ้มศพหมาเลือดอาบเต็มเสื้อ ไม่รู้จะทำยังดี... มองตามันตอนใกล้จะตาย แบบไม่รู้จะช่วยยังไงดี .....  และคุณก็ต้องนั่งโทษตัวเองตลอดเวลา ว่าทำไม ไม่ดูแลชีวิตมันให้ดีกว่านี้ .... จากนั้น คุณก็ร้องไห้ ทั้งวันทั้งคืน เพราะรู้สึกผิดที่ขังไว้ในกรงนานเกินไป จนคุณสำนึกลึกๆ ว่า เพราะคุณนั่นแหละ มันเลยตาย  ..... สุดท้าย คุณจะไม่อยากเลี้ยงหมาอีกเลย.....

ชั้นไม่เถียงว่า แมว เจ้าเล่ห์ จองหอง ดัดจริต สะบัดบ๊อบใส่เจ้าของบ่อยๆ 
แต่คุณจะเถียงไหม ..... ว่า โลกนี้ 
มีแมวซักกี่ตัวที่ตาย ..... เพราะโดนรถชน (น้อยมาก )
เห็นกระพรวนที่คอแมวตัวไหน ..... ชั้นมักจะหงุดหงิด 
เอาเป็นว่า แมวจะไม่เหลือความเป็นแมวอีกต่อไป  ..... 
หนูหนีหมด กระโดดไม่ได้ จะไปไหนใครก็จับได้..... 

ลองเลี้ยงแมวกันไหม ....... ปล่อยๆ มันไป ไม่ต้องใส่ใจมันมาก ..... 
  • เอาอาหารเม็ด กะน้ำสะอาดตั้งไว้ ก็พอ
  • แมวไม่เคยเรื่องมาก ไม่เคยขอ นั่น นู่น นี่ 
  • แมวไม่เคย ขอขนม ขอของเล่น 
  • เลี้ยงแมว ประหยัดกว่าเลี้ยงหมา 
  • และที่สำคัญ แมวไม่ค่อยตายง่ายๆ ..... 
  • ไม่ต้องไปใส่ใจมันเลย ปล่อยๆ มันไปเถอะ หายไป 2-3 วัน เดี๋ยวมันก็กลับมาเองแหละ 
ที่สำคัญ แมวไม่เคยงอลใคร มันเป็น life style ของแมว 

ส่วนถ้าผู้ชายคนไหน ชอบเลี้ยงแมว รีบจีบเลยนะ ..... 
เพราะบุคลิก ผู้ชายคนนั้น ไม่หวาน ไม่หวือหวา เงียบๆ ออกแนวเก็บกด เก็บอารมณ์ แต่จะรักใครรักจริงแน่นอน .... 

อีกอย่าง ถ้าแมวมันรักเจ้าของ ..... แมวจะไม่หนีไปไหน กระพรวนหรือปลอกคอ ไม่จำเป็นเลย สำหรับชีวิตแมว 

คิดค้าน การเอากระพรวนแขวนคอแมว  สงสารแมวบ้าง 
(และกรูจะออกไปเล่นนอกบ้านยังไงละ ... แมวทุกตัวกล่าว)